ภายหลังจากการระงับการอัพเกรด SegWit2x ส่งผลทำให้ราคาของ Bitcoin รวมถึงมูลค่าตลาดรวมร่วงลงมาอย่างรุนแรง
ราคาของ Bitcoin Cash หรือเหรียญโคลนนิ่งของ Bitcoin จากการ hard fork แยกเชนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหรียญที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการ scaling ที่ทำให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นผ่านการเพิ่มขนาดบล็อกเก็บข้อมูลเป็น 8MB และไม่มี SegWit นั้น ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงและทำจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้
โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่ ราคาของ Bitcoin Cash อยู่ที่ 1737.17 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 75.46% และยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว อีกทั้งมูลค่าตลาดรวมได้แซงของ Ethereum แล้ว โดยปัจจุบันอยู่ที่ 29.9 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ของ Ethereum อยู่ที่ 29.3 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจาก Coinmarketcap
สาเหตุหลักๆนั้นน่าจะมาจากการความคาดหวังของผู้คนก่อนการ hard fork ตัว SegWit2x ที่จะช่วยแก้ปัญหาการทำธุรกรรมล่าช้าของ Bitcoin ที่ถูกระงับไปเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลทำให้นักลงทุนที่เชื่อว่าตัวเองจะได้เหรียญ Bitcoin2x มาแบบฟรีๆต้องฝันสลาย (การถือ Bitcoin ไว้ก่อนการ hard fork จะทำให้ได้เหรียญ Bitcoin2x มาแบบฟรีๆในจำนวนที่เท่าๆกัน) เมื่อไม่มีของฟรีแล้วพวกเขาจึงทำการขายทิ้ง
ในขณะเดียวกัน Bitcoin Cash ที่มีขนาดบล็อกเป็น 8MB อยู่แล้ว และสามารถแก้ไขปัญหาการ scaling ได้อย่างดี ส่งผลทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่าเหรียญดังกล่าวจะมาแทนที่ Bitcoin ได้ในอีก 6 เดือน
หรือปรากฎการณ์ Flippening มาถึงแล้ว?
ในขณะที่รายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของเหรียญราชาอย่าง Bitcoin ได้มีมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็วๆ โดยในขณะนี้ราคาเหลืออยู่ต่ำกว่า 6,000 ดอลลาร์แล้ว และมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 98.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งห่างจากของ Bitcoin Cash อยู่ที่ราวๆ 68 พันล้านดอลลาร์
การ flippening หรือคำศัพท์ที่ใช้เรียกปรากฎการณ์ที่ Bitcoin หรือเหรียญราชาถูกเหรียญ altcoin ทวงบัลลังก์ในแง่ของโวลลุ่มการซื้อขาย 24 ชั่วโมงและมูลค่าตลาดรวมที่มีมากกว่า จนส่งผลให้ Bitcoin ต้องตกจากบัลลังก์ไป ซึ่งในประวัติศาสตร์นั้นยังไม่เคยมีเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่าแนวโน้มในตอนนี้ดูเหมือนว่าเริ่มที่จะมีความเป็นไปได้แล้ว
นาย Tom Zander หรือนักพัฒนาหลักของ Bitcoin Classic ที่ประกาศปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้คาดการณ์ว่า Bitcoin Cash จะสามารถมาทดแทน Bitcoin และกลายเป็นเหรียญที่แท้จริงได้ในอีกระยะเวลาแค่ 6 เดือน
“ในอีก 6 เดือนเราจะเอาคำว่า CASH ออกและเรียกมันว่า BITCOIN”
กล่าวโดยนาย Tom
ซึ่งดูเหมือน 6 เดือนของนาย Tom อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น