ด้วยการปรับการ Scaling ของ Blockchain จะทำให้ Ethereum ได้รับการอัพเกรดใหม่อีกครั้ง
Protocol ที่ชื่อว่า TrueBit ใหม่กำลังจะถูกปล่อยออกมาในเดือนธันวาคมนี้ ที่จะทำลายข้อจำกัดของระบบ Gas ใน Ethereum เพื่อเพิ่มความสามารถในการคำนวนให้มากขึ้น และมีเป้าหมายที่จะเป็น “World Computer” หรือคอมพิวเตอร์ของโลกนี้
ในขณะที่ TrueBit เป็นหนึ่งในโซลูชั่นในการปรับขนาดของการ Scaling ได้รับการออกแบบมาสำหรับแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับกลไกต่างๆ เช่น Sharding, State of Channels และ Raiden มันแตกต่างจากการโฟกัสไปที่การคำนวนการใช้พลังงานของเครือข่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคำนวนที่หนักหน่วงเช่น Machine Learning จะทำให้ TrueBit สามารถแก้ไขความจริงที่ว่า Ethereum นั้นมีความเร็วดั่ง “Smart Phone ในยุคปี 1999” เท่านั้น กล่าวโดยเจ้าพ่อ Ethereum อย่างนาย Vitalk Buterin ที่เคยพูดล้อเล่นเมื่อปีที่แล้ว
“ในระยะสั้นนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยลดความซับซ้อนของ Protocol TrueBit ในปัจจุุบัน” กล่าวโดยนาย Zack Lawrence ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 1protocol ผู้ซึ่งเป็นคนพัฒนาเทคโนโลยีนี้
แจ็คพ็อต
TrueBit มีจุดมุ่งหมายที่จะทำลายข้อจำกัดของระบบ Gas ใน Ethereum โดยการคำนวณแบบ Off-Chain outsourcing และให้รางวัลสำหรับผู้ที่เข้ามาแก้โจทย์ และในตลาดก็มี “ผู้ให้โจทย์” ที่จะจ่ายรางวัลให้กับ “ผู้ตรวจสอบ” ในขณะที่ “ผู้ตรวจสอบ” ตรวจสอบว่าการคำนวณนั้นถูกต้องไหม
เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Truebit มีแผนจูงใจที่เรียกว่า “forced errors jackpot” ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า “ผู้ตรวจสอบ” กำลังตรวจสอบความถูกต้องโดยการขอให้ “ผู้ตรวจสอบ” ส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเป็นครั้งคราว
ตามที่นาย Lawrence กล่าวมานั้น กระบวนการนี้อาจมีความซับซ้อนน้อยกว่ามาก
ด้วย Protocol ใหม่นี้จากที่จะจำกัดผู้เข้าร่วมการตรวจสอบนั้น จะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมการตรวจสอบได้อย่างเปิดเผย
ผู้ที่ตรวจสอบถูกต้องก็ยังจะได้ Rewards แต่ถ้าผู้ร่วมตรวจสอบรายอื่นมาพบข้อผิดพลาด พวกเขาสามารถส่งคำตอบที่เขาเชื่อว่ามันถูกต้องเข้าไปในการตรวจสอบในครั้งนั้นได้ คำตอบที่เป็นไปได้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ใน Pool ไปด้วยกันจนกว่าจะเจอคำตอบที่ถูกต้อง
ความท้าทายด้านความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม Protocol ตัวใหม่นี้อาจไม่ใช่ตัวสุดท้ายที่จะถูกพัฒนา โดยทาง TrueBit จะทำการพัฒนามันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
นาย Teutsch อธิบายว่า Protocol ทั้งสองเวอร์ชั่นจะยังคงมีผลต่อการคำนวณอย่างมากเช่น การตรวจสอบใช้เวลานานเกินไปหรือทำให้ราคาแพงเกินไป ผู้ที่สังเกตเห็นข้อผิดพลาดอาจมีแนวโน้มที่จะปล่อยมันไป
“จำเอาไว้ว่าเกมในการตรวจสอบนั้นจะใช้เวลานานมากเมื่อเทียบกับการคำนวนแบบดั้งเดิม ดังนั้นความกังวลที่ผมที่แสดงออกมานี้นั้นไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีเท่านั้น” เขากล่าว
ด้วยเหตุนี้ นาย Teutsch กล่าวว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์อาจตัดสินใจใช้ทั้ง Protocol เดิม (ชื่อเล่น TrueBit Classic) และ Protocol ใหม่ควบคู่กันไปเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น
แต่ก็ยอมรับในความจริงที่ว่าการรักษาความปลอดภัยแบบดิจิตอลเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากที่ต้องใช้เวลาทำงานอย่างต่อเนื่อง นาย Teutsch บอก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น