หากคุณได้สร้างบัญชีบนเว็บซื้อขาย Cryptocurrency และคุณเริ่มทำการซื้อเศษเสี้ยวของ Bitcoin และตามมาด้วย Litecoin เพียงแค่นี้คุณก็ได้เป็นนักลงทุนเต็มตัวแล้ว และด้วยกลยุทธ์ “ซื้อถูกขายแพง” จะทำให้คุณลงทุนได้อย่างถูกต้อง ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี จนกระทั่งคุณได้กระทำในสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ไม่ควรทำดังนี้
สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในการซื้อขาย Cryptocurrency
คำแนะนำต่อไปนี้ อาจถูกหัวเราะจากนักลงทุนรุ่นเก๋าก็ได้ แต่แน่ใจหรือว่าพวกเขาไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน นักลงทุนที่ดีต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดตอนที่เป็นมือใหม่ทั้งนั้น จะยิ่งดีไปกว่านั้นก่อนอื่นเลยคุณต้องเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตนและลดอีโก้ของตนเองลง
แปล:
- บาปทั้ง 7 ของชาว Crypto
- ความภาคภูมิใจ – การไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด
- ความโลภ – การไปให้เงินกับพวกผู้หลอกลวง
- ความเกรี้ยวกราด – การซื้อ/ขาย Cryptocurrency ด้วยอารมณ์
- ความอิจฉา – อยากได้เหรียญอื่นๆ
- ความปรารถนา – ลงทุนในสิ่งที่คุณไม่ชอบในระยะยาว
- ความเฉื่อยชา – การที่ไม่เข้าไปซื้อ ปล่อยให้ราคาไหลไป
- ความหลอกลวง – หลอกตัวเองเนื่องจากว่าคุณได้ซื้อเหรียญนั้นไปแล้ว
การไล่ซื้อเหรียญ
การดูแท่งเทียน (Candle Stick) สีเขียวของกราฟเป็นอะไรที่น่ารื่นรมย์สุดๆ สำหรับนักลงทุน แต่อย่างไรก็ตามความอิจฉาตาร้อนอาจครอบงำคุณอยู่ก็ได้ และมันจะทำให้คุณไม่สามารถต้านทานความรู้สึกในการที่จะซื้อเหรียญนั้นเหรียญนี้ได้ (FOMO)
และราคาที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วของ Cryptocurrency นั้นไม่ได้เป็นสัญญาณในการบ่งบอกถึงเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลงเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นเพราะข่าวที่ถูกกล่าวโดยผู้มีอิทธิพล (Influencer) ทำให้ราคามันพุ่งก็ได้ และสิ่งสำคัญก็คือการที่ต้องทำความเข้าใจว่าเหตุใดราคาของเหรียญต่างๆ นั้นมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักลงทุนมือใหม่อาจต้องทดลองการซื้อเหรียญไปก่อนโดยที่ยังไม่มีประสบการณ์นั้นๆ เลย หลังจากที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดแล้ว ก็จะมีความรู้ในการลงทุนมากขึ้นและจะมีกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างชาญฉลาดมากขึ้นด้วย
การซื้อเหรียญที่ขายยาก
คุณอาจไปซื้อพวก Altcoins หรือเหรียญที่เพิ่งเกิดใหม่ หรือไปใช้บริการเว็บซื้อขาย Cryptocurrency ขนาดเล็ก แน่นอนปัญหาที่เจอก็คือการซื้อขายกับ Order ที่มีขนาดเล็กเต็มไปหมด แต่ไม่มีโวลลุ่มใน order เหล่านั้นเลย เช่นคุณอาจจะเชื่อเหรียญ Sprouts (SPRTS) และคิดว่ามันคืออนาคตของ Cryptocurrency แต่ผู้ลงทุนคนอื่นๆ อาจไม่เชื่อในตัวเหรียญที่ว่านี้ สุดท้ายก็ไม่มีใครสนใจในราคาที่คุณตั้งขายเอาไว้นั่นเอง
แปล: ลืมไปได้เลยกับตัวเครื่องมือ indicator หรือ pattern ของกราฟทั้งหมด
สิ่งที่รั้งให้คุณไม่ได้กำไรก็คือการที่คุณควบคุมตัวเองไม่ได้, ขายเหรียญเมื่อมันได้กำไรเร็วเกินไป, เทรดเพื่อแก้แค้นที่ตัวเองเสียไป และไม่สามารถต้านทานความรู้สึก FOMO ได้
ยิ่งสอนนักลงทุนมากเท่าไร ก็จะเจอรูปแบบพวกนี้ให้เห็นมากขึ้นเท่านั้น
มันไม่ผิดอะไรกับการซื้อเหรียญที่มีพื้นฐานดี ไม่ว่าจะถือยาวหรือสั้น อย่างไรก็ตาม เราอาจจะยังไม่เจอเหรียญที่ใช่ เหรียญเหล่านี้อาจทำให้เกิดการขาดสภาพคล่อง นักลงทุนอาจเบื่อการรอมูลค่าเหรียญเหล่านี้ให้เพิ่มขึ้น พวกเขาจะถูกบังคับให้ขายเหรียญพวกนี้ไปในท้ายสุด
การกำหนดราคาที่ไม่ถูกต้อง
มันอาจเกิดขึ้นได้เช่น คุณกำลังจะขาย Altcoins ซึ่งคิดเป็นราคาเศษของ Bitcoin แต่คุณอาจจะคำนวนผิดพลาดได้ง่าย คุณคิดว่าคุณกำลังตั้งราคาขาย 0.0000457 BTC แต่จริงๆ แล้วคุณตั้งราคาขายไว้ที่ 0.00000457 BTC ซะเอง
ส่งเหรียญผิดไปยังกระเป๋าบนเว็บผู้ให้บริการซื้อขาย
เป็นความรับผิดชอบของคุณในการตรวจสอบ address ของกระเป๋าก่อนส่งเหรียญเข้ากระเป๋าต่างๆ เนื่องจากถ้าเกิดข้อผิดพลาดแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ มือใหม่หัดลงทุนมักจะเกิดข้อผิดพลาดในการส่ง Ethereum ไปยัง Wallet Ethereum บนเว็บ Exchange หรือตั้งค่าว่าให้รางวัลจากการขุด Pool ไปจ่ายโดยตรงที่กระเป๋าบนเว็บเทรด อย่าทำอย่างนั้น
การลงทุนด้วยความแค้น
คุณโกรธเพราะคุณไม่ได้ซื้อเหรียญไว้ก่อนที่ราคามันพุ่งสูงไปยังดวงจันทร์ คุณอยู่ในอารมณ์โกรธ คุณพยายามจะซื้อเหรียญถัดไปเพื่อที่จะเอากำไร แต่การกระทำเช่นนี้คุณกำลังนำตัวเองเข้าไปสู่ความล้มเหลวในตลาดลงทุน Cryptocurrency
การเข้าออกในการซื้อเหรียญของคุณอยู่จุดไหน? คุณไม่รู้หรอกเพราะคุณกำลังใช้อารมณ์ในการลงทุนอยู่ ทางแก้ก็คือ ถ้าคุณลงทุนโดยไม่ใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง คุณก็จะสามารถซื้อขายได้อย่างมีสติและดีขึ้นอย่างแน่นอน
การลงทุนที่เร็วเกินไป
การที่คุณซื้อเหรียญมาแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นคุณพบกว่ามันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 20% เราจะขายดีไหมและถอนเงินออกมาให้หมดนี่เลย? ไม่จำเป็น “ปล่อยมันไปและให้มันไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้”
มันไม่มีอะไรที่ผิดหวังไปกว่าการขายเหรียญที่มีกำไรเพียงเล็กน้อย แต่ไปแลกกับค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนเหรียญแทน
มั่นใจมากเกินไป
คุณมีลางสังหรณ์ว่าเหรียญที่ซื้อจะมีราคาเป็นสองเท่าในช่วงสัปดาห์หน้า คุณก็ทำแบบเดียวกันกับเหรียญอื่นๆ คุณรู้สึกว่าคุณนั้นเจ๋งมากๆ คุณจับอะไรก็กลายเป็นทองซะหมด คุณพร้อมที่จะไปแตะดวงจันทร์แล้ว แต่แล้ว …. ราคาก็ทิ้งดิ่ง มันเกิดอะไรขึ้น? คุณมันอวดดี นั่นแหละ…
แปล: เมื่อคุณซื้อ 0.00051 Bitcoin ในราคา 10 ดอลลาร์ และขายมันในสัปดาห์ต่อมาด้วยราคา 12 ดอลลาร์ โอ้ ผมกลายเป็นหมาป่าแห่ง Wall Street แล้ว!!!!!
การที่ขจัดความผิดพลาดทั้งเจ็ดข้อนี้ไปก็ไม่ได้ทำให้คุณเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นมาทันที แต่มันต้องใช้เวลาที่ยาวนาน และแลกมาด้วยการนอนดึก ตื่นเช้า และคอยเฝ้ามองที่หน้าจอดูกราฟตลอดเวลา เมื่อคุณตัดข้อผิดพลาดสำหรับมือใหม่หัดลงทุน Cryptocurrency คุณก็อาจจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพได้ในอนาคต
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น