<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักธุรกิจชาวแคนาดาต้องการที่จะรีไซเคิลความร้อนที่ถูกระบายจากการขุด Cryptocurrency

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิสาหกิจชาวแคนาดารายหนึ่งได้หาหนทางที่จะรีไซเคิลความร้อนที่ระบายออกมาจากการขุด bitcoin ด้วยการปลูกพืชและเลี้ยงปลาที่สามารถอยู่ในอุณหภูมิที่มีความอุ่นจากเครื่องมือขุดคริปโต ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบอควาโปนิกส์

นักวิสาหกิจชาวแคนาดานำความร้อนที่มาจากการขุดคริปโตไปรีไซเคิลปลูกอาหาร

Bruce Hardy นักวิสาหกิจจากรัฐแมนิโทบา ได้ค้นพบวิธีใหม่ในการนำความร้อนที่ถูกระบายออกจากระบบเครื่องขุด (mining rigs) ไปใช้เพื่อการสร้างพืชทานได้และก็ปลาที่สามารถดำรงอยู่ในอุณหภูมิที่ถูกระบายออกจากเครื่องขุดได้ นาย Hardy มีและใช้งานระบบเครื่องขุดถึง 30 ชุด ซึ่งถูกจัดวางอยู่ในอาคารที่มีขนาด 1858 ตารางเมตรภายในเทศบาลชนบทที่ St. Francois Xavier ในรัฐแมนิโทบา ความร้อนที่ถูกผลิตขึ้นโดยนักขุดนั้นก็จะหมุนเวียนไปทั่วทั้งอาคาร และจะถูกนำมาใช้เพื่อปลูกพืชและเลี้ยงปลา

ในชั้นแรกของอาคารนั้น มีปลา Arctic Char ประมาณ 800 ตัวกำลังถูกเลี้ยงอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ น้ำที่เลี้ยงปลานั้นอุดมไปด้วยไนเตรตจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็ทำให้มันเป็นปุ๋ยพืชที่ยอดเยี่ยม เพียงแค่กดปุ่มเดียว นาย  Hardy ก็สามารถที่จะปั๊มน้ำที่อุดมไปด้วยไนเตรตไปป้อนให้กับผักกาดหอม ใบโหระพา และก็รากข้าวบาร์เลย์ ซึ่งได้เติบโตด้วยวิธีอควาโปนิกส์ (Aquaponics – การปลูกพืชโดยควบคู่กับการเลี้ยงปลา) ตรงด้านบนเหนือปลา “ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกัน ไม่ต่างไปจากโลกของเราเลย” นาย Hardy ได้กล่าวกับสื่อข่าวท้องถิ่น นาย Hardy ก็เป็นประธานของบริษัท Myera Group ซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการผลิตอาหารให้มีความเป็นนวัตกรรมและยั่งยืนยิ่งขึ้น

นาย Hardy บอกว่าตนได้ ขุด bitcoin มาสองกว่าปีแล้ว หลังจากคราวแรกที่ตนลงทุนซื้อแอร์ขนาดยักษ์เพื่อจะทำให้คอมเย็นขึ้น นาย Hardy กล่าวว่าเขาก็ได้เริ่มตระหนักรู้แล้วว่าความร้อนที่ถูกระบายออกมานั้นสามารถถูกนำไปใช้เพื่อการผลิตสำหรับเกษตรกรรม “เมื่อได้มี Bitcoin ขึ้นมา มันเป็นตัวแทนที่ดีมากที่โชว์ให้พวกเราเห็นว่าเซิร์ฟเวอร์สามารถทำอะไรได้บ้างในแง่ของขบวนการผลิตความร้อนขึ้น และว่าพวกเราสามารถที่จะนำความร้อนนี้มาใช้เพื่อเกษตรกรรมได้หรือไม่” นาย Hardy กล่าว

Dwayne Clark ประธานของเทศบาลชนบทที่ St. Francois Xavier ได้ประกาศสนับสนุนโครงการของนาย Hardy และประกาศว่า “จากที่พวกเราได้เห็นในตอนนี้ มันดูเหมือนเป็นโครงการที่จะได้รับความนิยมและชื่นชมจากชุมชน ในตอนนี้มันก็ยังได้จัดการกับปัญหาที่ก่อกวนพวกเรามาหลายปีแล้วอีกด้วย” นาย Hardy ได้ทำการยืนยันเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ชุมชนท้องถิ่นนั้นได้รับจากการดำเนินการของเขา โดยกล่าวว่า “รายรับที่ผมได้มาจาก bitcoin นั้น ได้ช่วยให้ผมสามารถจ้างคนงานมาดูแลได้ และนั่นก็ทำให้ผมทำการจัดสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้น เพื่อที่จะให้ผู้คนได้เห็นถึงนวัตกรรมทางเกษตรกรรมของพวกเรา”

แมนิโทบายังคงดึงดูดนักขุดคริปโตมากยิ่งขึ้นต่อไป

นาย Hardy กล่าวว่าโครงการนี้ยังอยู่ในช่วงขั้นต้น ซึ่งพื้นที่บนชั้นสองของอาคารนั้นมีเพียง 1 ส่วน 4 เท่านั้นที่มีอุปกรณ์ขุดและต้นไม้ นาย Hardy กล่าวว่าโครงการของเขาได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวจีน รวมถึงนักค้นคว้าจากออสเตรเลีย เขาหวังที่จะนำพื้นที่ๆเหลืออื่นๆมาต่อยอดโครงการต่อไปในไม่ช้านี้

รัฐหลายรัฐในแคนาดากำลังถูกมองว่าเป็นที่ๆน่าสนใจสำหรับบริษัทด้าน cryptocurrencies ที่กำลังจะหาที่จัดตั้งสำนักงาน เนื่องจากรัฐเหล่านี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังน้ำ (hydropower) ซึ่งยังมีราคาที่ถูกอีกด้วย “ไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่เยี่ยมที่สุดในรัฐของเรา” นาย Hardy กล่าว “ถ้าพวกเราสามารถนำพลังงานของเรามาใช้ในแมนิโทบาแห่งนี้ พวกเราก็จะเพิ่มมูลค่าของพลังงานนี้ และก็จะสามารถทำในหลายๆเรื่องที่ยอดเยี่ยมได้”

นอกจากจะมีไฟฟ้าพลังน้ำที่ราคาถูกแล้ว แมนิโทบาเองก็เป็นเมื่องขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือที่มีอุณหภูมิที่ต่ำที่สุด ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทขุดคริปโตรายใหญ่ต่างๆที่กำลังหาทางหนีจากความไม่แน่นอนในประเทศจีนหลังรัฐบาลประกาศทำการควบคุม จากคำกล่าวของ Manitoba Hydro แล้ว บริษัทนี้ได้รับข้อความสอบถามกว่า 100 ข้อความจากนักขุดคริปโตช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับสถานที่บางแห่ง หนึ่งในนั้นก็เป็นกลุ่มโบรกเกอร์ชาวอเมริกันที่เป็นตัวแทนให้กับนักลงทุนชาวจีน

ถึงกระนั้นก็ตาม สำนักงาน Reuters ได้รายงานว่า “Manitoba Hydro ได้เรียกร้องให้คณะกรรมการสาธารณูปโภคของรัฐทุกๆคนทำการรับรองข้อเสนอเพิ่มค่าไฟฟ้าให้สูงขึ้น 7.9% และให้มีผลภายในวันที่ 1 เมษายน 2018” ซึ่งนั่นก็จะทำให้ค่าไฟฟ้าในแมนิโทบานั้นสูงขึ้นกว่าค่าไฟฟ้าของรัฐต่างๆรอบควิเบก

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น