มีรายงานว่ากรมสรรพากรแห่งประเทศอินเดียได้ส่งใบแจ้งเตือนภาษีไปหานักลงทุนคริปโต ภายหลังจากการเก็บผลสำรวจเว็บผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโตทั่วประเทศ
โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ทางกรมสรรพากรของอินเดียได้เผยว่ามีประชาชนในประเทศที่ได้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับเหรียญ cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin, Ether และ Ripple ไปแล้วกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 17 เดือนที่ผ่านมาจนถึงช่วงปัจจุบันในปี 2018
โดยในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางบุคลากรของกรมสรรพากรอินเดียได้เข้าพบเยี่ยมชมเว็บเทรดต่าง ๆ ในประเทศเพื่อทำการเก็บข้อมูลและหลักฐานการทำธุรกรรมของนักลงทุนและนักเทรด โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัว, บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยในขณะนั้นทางกรมสรรพากรอินเดียอ้างว่าพวกเขาทำการตรวจสอบเพื่ีอดูว่ามีการฟอกเงินและหลบหนีภาษีหรือไม่ แต่ทว่าภายหลังจากนั้น ทางแผนก IT ของกรมดังกล่าวก็ออกมาคอนเฟิร์มว่าพวกเขาจะทำการเก็บภาษีจากนักลงทุนคริปโต
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว พวกเขาก็ได้ส่งจดหมายเตือนเกี่ยวกับภาษีไปหานักลงทุนกว่า “หมื่นคน” ที่มีความเกี่ยวข้องกับ cryptocurrency โดยใจความของจดหมายดังกล่าวนั้นมีการบังคับให้นักลงทุนรายงานผลกำไรจากการซื้อขาย หรือถือเหรียญ cryptocurrency
“พวกเราค้นพบว่านักลงทุนเหล่านั้นรายงานภาษีไม่ตรงกับรายได้ที่พวกเขามี” กล่าวโดยผู้อำนวยการของแผนก IT ในกรมสรรพากรนามว่า B.R Balakrishnan
ท่าทีของรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับ cryptocurrency ดูเหมือนว่าจะยังไม่ชัดเจนเหมือนกับของประเทศไทย แต่กระนั้น อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศอินเดียก็กำลังมีขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเว็บผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเหรียญ cryptocurrency ในประเทศดูเหมือนว่าจะมีการทำ KYC ตามปกติ อีกทั้งยังรับสมาชิกใหม่มากว่า 200,000 คนต่อเดือน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น