<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“จะ Fork ดีไหม?” e-Chat เปิดให้นักลงทุนโหวต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

e-Chat คือ Instant Messenger ที่ทางนักพัฒนาเคลมว่ามีความปลอดภัยสูง และทำงานบนระบบ Blockchain จึงทำให้อยู่นอกเหนือการควบคุมโดยรัฐบาลหรือ server จากบริษัทใด ๆ นอกจากนี้ มันยังมี Cryptowallet เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Messenger ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเหรียญคริปโตไปให้เพื่อนหรือคนใกล้ชิดในระหว่างการสนทนาได้ทันที และยังมีฟังก์ชั่น “Cryptolike” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินออนไลน์เพื่อที่จะสนับสนุนโพสต์ของเพื่อนได้อีกด้วย

และในตอนนี้ e-Chat ได้กำลังทำการเปิดโหวตเพื่อให้นักลงทุนร่วมกันกำหนดเส้นทางว่าจะพัฒนาแอปนี้ต่อไปทางไหนในอนาคต โดยทางทีมงานจะทำการเปลี่ยนแปลงแนวทางหากว่าผลโพลล์ชี้ว่านักลงทุนส่วนมากต้องการให้มีการ Fork ซึ่งการ Fork นี้จะเป็นแบบ Ethereum network

แต่ถ้าคะแนนเสียงส่วนมากไม่สนับสนุนการ Fork ทางทีมงานก็จะดำเนินตาม Roadmap ของ e-Chat เช่นเดิม

 

“ทำไมการ Fork จึงมีชื่อเสียง?”

ความหมายของการ Fork คือ “การที่นักพัฒนานั้นคัดลอก source code จากซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (software package) ชุดหนึ่งและนำมาต่อยอดพัฒนาเพื่อที่จะสร้างซอฟต์แวร์ชิ้นใหม่ที่มีความแตกต่างขึ้น”

“เมื่อมีการสร้างซอฟต์แวร์ฟรีและเป็น open-source ขึ้นมา การ Fork ก็จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา” ตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ก็คือระบบปฏิบัติการ Linux [หรือเรียกว่า Unix] ซึ่งแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเทคโนโลยี Blockchain แต่ก็เป็นตัวอย่างที่จะทำให้ทุกคนได้เข้าใจว่าการ Fork ของ e-Chat ที่อาจเกิดขึ้นนั้นเป็นแค่เพียงแค่จุดเริ่มต้นเมื่อเทียบกับการ Fork ของ Unix

การ Fork ของ Unix

เมื่อมีการ Fork ของ Cryptocurrency เกิดขึ้น กลุ่มที่มีการทำการตลาดถูกทางและมีชุมชนที่สนใจกับผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการ Fork นี้ จะช่วยทำให้เหรียญ Fork มีมูลค่าตลาดสูงและมีผู้ใช้จำนวนมาก จากข้อมูลบนเว็บ Coinmarketcap เหรียญอันดับแรก 20 เหรียญนั้นมีเหรียญ Fork อยู่ 5 เหรียญ ได้แก่ Gold, Ethereum, Classic, Litecoin และ Bitcoin Cash ซึ่งมูลค่าตลาดของพวกมันล้วนมีมูลค่าเกิน 40,000 ล้านดอลลาร์ จึงสามารถยอมรับได้ว่าการ Fork นั้นไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย

 

“จะ Fork ดีไหม?”

ทีม e-Chat ได้กล่าวว่าพวกเขาได้ใช้ “นโยบายการตลาดที่ดุดัน” และมี “ทีมงานที่แข็งแกร่ง” ซึ่งนั่นทำให้พวกเขา “แตกต่างจาก start-up อื่น ๆ อีกร้อยกว่าแห่ง” นอกจากนี้ application นี้ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้มีชื่อเสียงหลากหลายท่านตั้งแต่บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวอย่าง Jay Alvarrez [ผู้มีผู้ติดตามบน Instagram ถึง 5.9 ล้านคน] ซึ่งเขาได้ชื่นชม e-Chat ดังนี้: “e-Chat คือเสรีภาพในการพูดอย่างไร้ขอบเขตใด ๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่รูปภาพและข้อมูลของคุณจะถูกขโมย นอกจากนี้ มันยังปลอดภัยและทันสมัยมาก ๆ”

และทางผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียอย่าง Ksenia Sobchak [ซึ่งบิดาของเธอ นาย Anatoly Sobchak ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับประธานาธิบดี Vladimir Putin รวมถึงอดีตประธานาธิบดีนาย Dmitry Medvedev] ได้กล่าวว่า “ฉันขอแนะนำให้ทุกคนลองศึกษา messenger e-Chat ให้มากยิ่งขึ้น มันเป็น project ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ สำหรับยุคแห่ง Cryptocurrency ในปัจจุบัน”

แรงสนับสนุนจากผู้คนเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าการ Fork นี้จะได้รับการสนับสนุนจากเว็บเทรดต่าง ๆ, Cryptowallet, รวมถึงบริการประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย และถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ เหรียญ Fork นี้ก็จะมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากและราคาของเหรียญก็จะเพิ่มสูงขึ้น และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนก็จะได้ประโยชน์จากการ Fork อย่างแน่นอน

นอกจากจะมีนโยบายการตลาดที่ดุดันแล้ว ทางทีมของ e-Chat ยังได้เตรียมการปรับเปลี่ยนเพื่อที่จะสร้างระบบเครือข่ายของตนแทนที่การใช้ระบบ ERC20 token standard เดิม โดยจะมีคุณสมบัติดังนี้:

  • ระบบธุรกรรมที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ใช้สามารถสร้าง Token ของตนเองผ่านแพลตฟอร์ม e-Chat ด้วยการกดเพียงไม่กี่ปุ่ม
  • ผู้ใช้สามารถสร้าง decentralized application ผ่านระบบของ e-Chat ได้

ทางบริษัทยังเน้นย้ำว่า “ผู้ใช้คือผู้ที่จะปูแนวทางให้กับพวกเราในด้านการพัฒนา และมันก็ควรจะเป็นแบบนั้น! ดังนั้นเราถึงได้จัดโพลล์เกี่ยวกับการ fork นี้ขึ้น ถ้าชุมชนของพวกเราเลือก “เห็นชอบ” พวกเราก็จะทำให้ fork เกิดขึ้นจริง!”

ในตอนนี้ e-Chat (ECHT) กำลังที่จะเข้าสู่ขั้นที่ 5 ในการระดมทุน ICO รอบที่ 3 ซึ่งจะมีระยะเวลาถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 โดยเหรียญ ECHT 1 เหรียญมีมูลค่าอยู่ที่ 1.35 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ทางทีม e-Chat ได้เปิดให้ทุก ๆ คนสามารถเข้ามาพูดคุยหรือสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการ Fork นี้ได้บน Telegram: https://t.me/ico_eChat

ส่วนผู้ที่สนใจจะติดตามข้อมูลข่าวคราวล่าสุดสามารถเข้าไปยังเว็บ Official ของ e-Chat ได้

 

หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น