<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เว็บเทรด Bitcoin สองแห่งในอินเดียถูกสั่งหยุดให้บริการเนื่องจากแรงกดดันทางกฎหมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เว็บเทรดสองแห่งในประเทศอินเดียได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมเป็นต้นไป พวกเขาเผยถึงสาเหตุที่ต้องหยุดให้บริการนั้นมาจากแรงกดดันทางกฎหมายที่ทำให้กิจการของพวกเขา “ต้องตกอยู่ในความตึงเครียด”

หยุดให้บริการ

สองเว็บผู้ให้บริการเทรดเหรียญคริปโตนาม Btcxindia และ Ethexindia ได้ประกาศว่าพวกเขาจะหยุดให้บริการเทรดเหรียญคริปโตตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมนี้เป็นต้นไป อ้างอิงจาก Economic Times

ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแพลทฟอร์มดังกล่าวทั้งสองกว่า 35,000 คน โดยเฉพาะเว็บ Btcxindia ที่ถือเป็นเว็บเทรดเหรียญคริปโตที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอินเดีย โดยเปิดให้บริการมากว่า 4 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้วเว็บดังกล่าวหยุดให้บริการซื้อขายเหรียญ Bitcoin และไปให้บริการซื้อขายเหรียญ XRP กับเงินรูปีแทน

ล่าสุด พวกเขาได้ประกาศบนเว็บไซต์ โดยกล่าวว่า

“ทางเราขอแนะนำให้ลูกค้าถอนเงินทุน (BTC, XRP และ INR) ออกมาก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2018 ถ้าหากว่าไม่ถอน บัญชีของผู้ใช้งานจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษา”

ส่วนเว็บเทรด Ethexindia ถือเป็นเว็บแรกของประเทศอินเดียที่ให้บริการซื้อขายเหรียญ Ether และเปิดให้บริการมาแล้วกว่าสองปีก็หยุดให้บริการซื้อขายและฝากเงินทั้งเหรียญ INR และ ETH เช่นกัน นอกจากนี้ทางบริษัทยังประกาศว่า “จะส่งเงินทั้งหมดกลับเข้าบัญชีธนาคาร” หากมีคนพยายามฝากเงินเข้ามาอีกด้วย

ถูกกฎหมายบีบอัด

ปัจจุบันทางรัฐบาลอินเดียกำลังหารือเกี่ยวกับการร่างกฎหมายมากำกับ cryptocurrency และสกุลเงินดิจิตอล ในขณะเดียวกันก็ได้มีการตัดสินใจกำหนดหน้าที่ของผู้ดูแลด้าน cryptocurrency เรียบร้อยแล้ว และจะเผยกฎหมายมาในเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ทาง Btcxindia ได้กล่าวกับผู้ใช้งานของพวกเขาว่า

“ตามที่ทางเราทราบดีเกี่ยวกับการประกาศงบประมาณ ทางรัฐบาลอินเดียกำลังไม่สนับสนุนการเทรด cryptocurrency ซึ่งก็เป็นที่รู้ ๆ กันมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับเจตจำนงของรัฐบาล ซึ่งนั่นส่งผลทำให้บริษัทหลาย ๆ แห่งต้องตกอยู่ในความตึงเครียด และทำให้เราต้องตกอยู่ในจุดที่รู้สึกว่าไม่สามารถให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพได้อีกต่อไปแล้ว”

พวกเขาทิ้งท้ายว่าจะไม่เปิดให้บริการต่ออีกจนกว่ากฎหมายนั้นจะเข้าที่เข้าทาง และในขณะเดียวกันจะหันไปให้บริการด้านที่ปรึกษา Blockchain แทน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น