<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“พวกคดโกงทุก ๆ คนบนโลกนี้ต้องเคยนำเงินคริปโตมาใช้แน่นอน” CFO ของ Visa กล่าว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Vasant Prabhu ประธานฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำอย่าง Visa ดูเหมือนจะไม่ถูกชะตากับ Bitcoin และเงินคริปโตเลย

เขาไม่ได้ยับยั้งความเคืองที่ตนเองมีต่อ Cryptocurrency (ซึ่งเป็นเครือข่ายการเงินแบบ Decentralized) นี้เลยสักนิดในบทสัมภาษณ์กับทาง Financial Times โดยกล่าวว่ามันเป็นสิ่งที่ดึงดูด “พวกคดโกงและนักการเมืองที่สกปรกทุก ๆ คน” และรวมไปถึงพวกที่เก็งกำไรแบบมั่ว ๆ อีกด้วย

“พวกที่ถามผมเรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกโคตรกลัวเลย เช่นพวกพนักงานขับรถลีมูซีนที่สนามบิน… พวกเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่เลยสักนิด” นาย Prabhu กล่าว

กระแส Bitcoin นั้นแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก และในสายตาของพวกผู้บริหารธนาคารแล้ว มันเป็นอะไรที่สบประมาทต่อผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการเงินที่ทำงานในบริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกที่ยึดถือกับระบบธนาคารแบบ Centralized มาโดยตลอด

นาย Prabhu เรียกผู้ที่สนับสนุน Cryptocurrency เป็น “พวกที่มีศรัทธาอย่างแท้จริง” และกล่าวว่าคนพวกนี้ได้เรียกเขาเป็น “ไดโนเสาร์” ซึ่งเขากล่าวว่ามีผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin นั้นใช้ชีวิตอยู่ในแถบชุมชน San Francisco ที่เขาอยู่ด้วยเช่นกัน

นาย Prabhu ได้กล่าวว่าเขาได้เห็นคนรอบตัวเขาที่ได้ทำกำไรอย่างรวดเร็วจากการลงทุน Cryptocurrency แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาถือว่านี่คือหนึ่งในกระบวนการการสร้างฟองสบู่ล้วน ๆ แม้ว่าคนในแวดวงครอบครัวของเขาคนหนึ่งได้เพิ่มเงินตัวเองถึง 2 เท่าจากการลงทุนนี้

“นี่คือสิ่งที่คุณมักจะได้ยินอยู่ทุกครั้งก่อนเกิดฟองสบู่ – อยู่ดี ๆ คนขัดรองเท้ามาแนะนำว่าคุณควรลงหุ้นตัวไหน” นาย Prabhu กล่าว

แม้ว่าทางบริษัท Visa จะไม่ได้ปิดกั้นการทำธุรกรรมด้วย Bitcoin เหมือนกับธนาคารแห่งอื่นในสหรัฐฯ ที่ทำการแบนไม่ให้ลูกค้าทำการชำระเงินซื้อ Cryptocurrency ผ่านบัตรเครดิต แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านาย Prabhu จะต้องชอบมัน

“สำหรับเงินตราผลิตโดยธนาคารกลางของสหรัฐ ผมรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่สำหรับ Cryptocurrency แล้ว ใครที่ไหนมันจะไปรู้?”

มาตรการ KYC และ AML

Visa นั้นบังคับใช้แนวทางปฏิบัติในการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer: KYC) และนโยบายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (Anti-money laundering: AML) อย่างเคร่งครัด ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ประธานฝ่ายการเงินท่านนี้ไม่ถูกชะตากับ Bitcoin นัก

เขากล่าวว่า Cryptocurrency คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกอาชญากร

“การนำเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ไหลผ่านระบบการธนาคารได้นั้นยากมาก ๆ Cryptocurrency ตอบโจทย์ปัญหานั้นได้อย่างไร้ที่ติ พวกคดโกงและนักการเมืองที่สกปรกทุก ๆ คนบนโลกนี้ต้องเคยได้นำเงินคริปโตมาใช้แน่นอน ผมพนันได้” นาย Prabhu กล่าว

ในขณะเดียวกัน Bromium บริษัทผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยในระบบคอมพิวเตอร์ ได้รายงานว่า การนำ Bitcoin มาใช้กระทำการฉ้อฉลนั้นกำลังลดลงต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยสาเหตุที่ว่า Digital wallet และบัญชีแยกประเภทแบบสาธารณะ (public ledger) ที่โปร่งใสนั้นสามารถถูกสะกดรอยตามได้ แต่ว่าพวกเขาจะหันไปใช้เหรียญที่ให้ความเป็นส่วนตัวและปกปิดตัวตนมากกว่าเช่น Monero แทน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น