<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การลงทุนของเครือข่าย Bitcoin เริ่มเห็นผล จำนวนผู้อุทิศตัวเพื่อ Bitcoin กำลังเพิ่มขึ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถึงแม้ว่า Bitcoin จะเกิดมาได้กว่า 10 ปี แล้ว แต่ปัจจุบันมันพึ่งจะเผชิญกับปัญหาหนึ่ง ซึ่งหากมองจากผิวเผิน มันดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ปัญหาดังกล่าวคือการจ้างงาน

หรือพูดง่าย ๆ คือในปัจจุบันจำนวนนักพัฒนาคริปโตนั้น กำลังขาดแคลนเป็นอย่างมาก หากสังเกตุใน Github นักพัฒนาส่วนใหญ่จะมีแต่ชื่อเดิม ๆ ถึงแม้ปัจจุบันจะเริ่มมีหน้าใหม่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยก็ตาม

นาย Ferdinando Ametrano ศาสตราจารย์ที่ Politecnico di Milano และผู้จัดการในการประชุมนักพัฒนาของ Bitcoin กล่าว :

“ในปัจจุบัน เริ่มมีความหวังขึ้นมานิดหน่อย เนื่องจากมีสัญญาณบ่งบอกว่าจำนวนนักพัฒนาคริปโตนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว หลังจากที่ได้มีการลงแรง และเวลาไปในการฝึกสอนให้ความรู้กับนักพัฒนารุ่นใหม่”

เขาได้สร้าง Chaincode Labs ขึ้นมาที่นิวยอร์ก เพื่อที่นักพัฒนาที่มีความสามารถจะมาให้ความรู้ ความเข้าใจกับผู้ที่ต้องการเป็นนักพัฒนาหลักของ Bitcoin ได้ เช่น นาย John Newbury ผู้ซึ่งตอนนี้คอยให้ความช่วยเหลือนักพัฒนารุ่นใหม่อยู่

นาย Newbury ได้เข้าร่วมกับ Chaincode ในปี 2016 หลังจากนั้น ในช่วงแรก ๆ เขาได้ไปสอนผู้ที่เข้าร่วมที่มาจากอิสราเอลและฮ่องกงเป็นจำนวน 11 คน

“ตอนนี้เรายุ่งกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนมาก มันเหมือนกันว่าเราไม่สามารถจะทำให้เสร็จได้เลย”

เขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่กำลังเผยแพร่ความรู้นี้อยู่ นาย Jimmy Song เป็นหนึ่งในอีกคนที่จัด Workshop สำหรับการเขียนโปรแกรมด้าน Blockchain ซึ่งได้มีนักพัฒนาที่มีความสามารถ และ Partner ที่เป็นกองทุนสำหรับ Blockchain ได้สอนผู้คนไปแล้วกว่า 250 คนตั้งแต่เปิด Workshop มาตั้งแต่เดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา

มีความต้องการของ Workshop นี้เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเขาได้เพิ่มรอบในการ Workshop เข้าไปอีกในช่วงอีกหลายเดือนข้างหน้า

ความหลากหลาย

ความหลากหลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มนักพัฒนา นาย Song พบเห็นผู้คนหลากหลายประเภทที่มาเข้าร่วม Workshop ของเขา

“ผมเห็นคนที่มาเข้าร่วมตั้งแต่เด็กสาววัยรุ่น จนถึงผู้จัดการกองทุน หรือคนที่เกษียณแล้ว”

การที่มีนักพัฒนาที่หลากหลายส่งผลดีเป็นอย่างมากต่อเครื่อข่ายในภาพรวม เนื่องจากมุมมองในการแก้ปัญหาก็จะหลากหลายตามไปด้วย หากมีเพียงกลุ่ม ๆ นึงเพียงหยิบมือมาสร้างโปรแกรม พวกเขาก็มีโอกาสที่จะเจอปัญหา และพบ Bug แบบเดียวกันซ้ำ ๆ หากมีนักพัฒนาที่มีความหลากหลาย เครือข่ายจะมีความแข็งแกร่ง และเสถียรกว่าเดิม

“มีงานวิจัยหลายงานที่เผยว่า การมีพื้นหลังและมุมมองที่หลากหลายจะเพิ่มคุณภาพให้กับการจัดการฝนภาพรวมเป็นอย่างมาก”

การต่อยอด

ล่าสุดนางสาว Janey Gak ผู้ซึ่งได้เข้าร่วมใน Workshop ของนาย Song มา ได้เริ่มพัฒนากระเป๋าคริปโตสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างอัฟกานิสถาน

นอกจากที่เธอได้ความรู้จากการเข้า Workshop ไปใช้แล้ว เธอยังมีแผนที่จะนำความรู็ที่เรียนรู้ในอัฟกานิสถานไปเผยแพร่ต่อกลุ่มนักพัฒนาหลักอีกด้วย

อ้างอิงจาก นาย Song นี่คืสิ่งที่เขากล่าวว่า ความหลากหลายนี้จะทำให้เครือข่าย Decentralized มากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อ Protocol โดยการมีผู้คนที่หลากหลายเข้ามาตรวจสอบโค้ด

ความอดทน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ความซับซ้อนของเครือข่ายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นั้นทำให้การหานักพัฒนาหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มนั้น ไม่ใช่เรื่องงง่ายเลย

นอกจากนี้ นักพัฒนา Bitcoin ยังทำงานด้วยจิตอาสาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ได้เป็นไอเดียที่น่าดึงดูดนักสำหรับคนส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีการสปอนเซอร์จากหลากหลายแห่งก็ตาม เช่น MIT Media Lab ที่ทำให้ผู้ที่พัฒนา Bitcoin ในยามว่าง มีรายได้เสริม

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนผู้พัฒนานั้นไม่ได้เกิดแค่ตัว Bitcoin อย่างเดียว นาย Michael Ford นักพัฒนาอาวุโส กล่วว่า :

“ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องปกติสำหรบ โปรเจคแบบ Open-source การขาดแคลนนักพัฒนาเป็นเรื่องปกติ มันเป็นเรื่องยากที่จะหาผู้คนที่จะยอมสละเวลาว่างของพวกเขาเพื่อส่วนรวม”

ในส่วนการขาดแคลนของบุคคลากรนั้น คงไม่ถูกแก้ให้เรียบร้อยดีในเร็ว ๆ นี้ หากนักพัฒนายังไม่มีแรงจูงใจที่มากกว่านี้ เช่น สปอนเซอร์ที่มากขึ้น ในปัจจุบัน นักพัฒนาปกติตอนนี้ก็เป็นบุคคลากรที่ขาดแคลนหนักอยู่แล้ว นี่ยิ่งเป็นนักพัฒนาสำหรับคริปโตในเฉพาะอีก ก็คงรู้กันดีว่า มันนั้นหายากมากขึ้นไปอีกเท่าไร นักพัฒนาส่วนใหญ่อาจจะไปเข้าร่วมในโปรเจคอื่น ๆ ที่ได้ผลประโยชน์มากกว่านี้ กว่าโปรเจคแบบสาธารณะเช่น Bitcoin ต้องติดตามกันต่อไปว่าทิศทางของปัญหานี้จะถูกแก้ได้อย่างไร

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น