<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เพราะเหตุใดรัฐบาลเกาหลีใต้ถึงต้องการทำให้ ICO ถูกกฎหมายหลังจากที่พึ่งแบนมันไป

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ประเทศเกาหลีใต้นั้นได้เป็นตัวตั้งตัวตีในวงการคริปโตมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลของพวกเขาได้มาห้ามปราบบริษัทในประเทศที่มีเความเกี่ยวข้องกับ Blockchain ทำให้การเติบโตของวงการคริปโตนั้นชะลอลง

แต่ดูเหมือนว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้เริ่มกลับมาพิจารณาการระดมทุน ICO ให้ถูกกฎหมายอีกรอบนึง ซึ่งจะทำให้การแบน ICO ที่เคยเกิดขึ้นนั้นเป็นโมฆะ

การช่วยเหลือ ICO ที่ถูกกฎหมาย

กระแสที่ร้อนแรงของคริปโตในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นทำให้มี ICO เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศเกาหลีใต้ซึ่ง ICO ที่เกิดขึ้นมานั้นมีทั้งพวกที่ตั้งใจทำโปรเจกต์จริง ๆ และพวกนักต้มตุ๋น ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้เล็งเห็นในจุดนั้นและพวกเขาคิดว่าการคุ้มครองประชาชนนั้นต้องมาก่อน

กฎหมายดังกล่าวจะส่งเสริมให้ ICO ต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานสาธารณะ และศูนย์วิจัยที่กำลังวิจัยเกี่ยวกับ Blockchain และจะยังได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีแและกระทรวงวิทยาศาสตร์และ ICT ซึ่งจะกำจัดความไม่แน่ชัดในวงการคริปโตเกาหลีใต้ออกไป และเปิดทางให้กับการที่ประเทศเกาหลีใต้จะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในชีวิตจริง

ความโปร่งใสที่มากขึ้นในวงการคริปโต

ในงานสัมภาษณ์เดือนเมษายนที่ผ่านมา นาย Cha Myunghun CEO ของเว็บเทรดคริปโตสัญชาติเกาหลีใต้นาม Coinone ให้สัมภาษณ์กับ Forbes ถึงความจำเป็นของกฎหมายและแนวทางในด้านต่าง ๆ สำหรับวงการคริปโต

“มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สำหรับรัฐบาลที่จะกังวลเกี่ยวกับคริปโต แต่มาตรการอย่างการปิดเว็บเทรดคริปโตทั้งประเทศเลยนั้นเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ”

นาย Cha เชื่อว่ากฎหมายสำหรับคริปโตนั้นควรโฟกัสไปยังกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในตลาด และส่งเสริมให้ความรู้ต่อประชาชนและนักลงทุนทั้งประเทศถึงประโยชน์ของ Blockchain ซึ่งในปัจจุบันเว็บเทรดในประเทศกำลังทำตามข้อบังคับใหม่ในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ซึ่งจะแก้ปัญหาการเทรดคริปโตแบบไม่สามารถตามตัวได้ ซึ่งจะทำให้วงการโปร่งใสมากขึ้น

การเปลี่ยนใจของรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้

อ้างอิงจากรายงานในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มออกนโยบายมาส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยี Blockchain พร้อมทั้งป้องกันผู้บริโภคจากการที่นักต้มตุ๋นต้องการระดมทุน ICO และการหลอกลวงในรูปแบบอื่น ๆ

การประกาศว่าจะทำให้ ICO ในประเทศถูกกฎหมายนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ บริษัท Kakao ประกาศว่าจะย้ายไปทำ ICO ที่ประเทศอื่น บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งพวกเขาดูแล KakaoTalk, KakaoPay, Kakaostory และ KakaoTaxi และแอปพลิเคชั่นเหล่านี้มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในอุตสาหกรรม Fintech, บริการแท็กซี่, บริการส่งข้อความ และ Social Media ในประเทศ โดยพวกเขาจะนำคริปโตที่กำลังจะสร้างนั้นไปใช้กับพ่อค้าแม่ค้ากว่า 12,000 คนและผู้ใช้กว่า 100 ล้านคน

ซึ่งในเวลานั้นที่ประเทศเกาหลีใต้ยังแบนการระดมทุนแบบ ICO อยู่ พวกเขาเลยประกาศว่าจะระดมทุน ICO ที่ประเทศอื่น ๆ แทน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศเกาหลีใต้สูญเสียผลประโยชน์เป็นอย่างมาก

รัฐบาลเกาหลีใต้คิดว่า หากยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท KaKao เริ่มไปทำ ICO นอกประเทศ บริษัทรายใหญ่ และย่อยอื่น ๆ จะทำตามกันเป็นทอด ๆ กันไป แต่อย่างไรก็ตาม

ในอนาคต ไม่แน่ว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีกฎหมายสำหรับคริปโตที่เข้มงวดขึ้นนั้น อาจเล็งเห็นว่าพวกเขากำลังเสียผลประโยชน์อยู่ จนกลับมาพิจารณาศึกกฎหมายให้เหมาะสมกว่าเดิมอีกรอบก็เป็นได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น