<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การที่ SEC ไม่อนุมัติ Bitcoin ETF จะส่งผลอย่างไรต่อตลาดคริปโต ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมาสยามบล็อกเชนได้รายงานว่าคำขออนุมัติสำหรับ Bitcoin ETF จำนวน 9 กองทุนถูกทาง SEC หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ปฎิเสธทั้งหมด ซึ่งทำให้นักลงทุนคริปโตหลาย ๆ คนในตลาดพบกับความผิดหวัง เนื่องจาก Bitcoin ETF ถูกตั้งความหวังว่ามันจะเข้ามาทำให้ตลาดคริปโตกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง

ปัจจุบันตลาดคริปโตได้เข้าสู่ขาลงตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หากอ้างอิงจาก Coinmarketcap จะพบว่าราคา ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าลดลงจากเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2018 มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จาก 14,112 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6,454 ดอลลาร์ พร้อมทั้ง Altcoins ตัวอื่น ๆ ในตลาดก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก

ทำไมหลาย ๆ คนถึงรอ Bitcoin ETF

เมื่อตลาดเข้าสู่ขาลงเป็นเวลานานกว่า 8 เดือนเช่นปัจจุบัน ก็ไม่แปลกที่หลาย ๆ คนจะเริ่มคาดหวังตลาดให้เริ่มฟื้นตัว และกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง Bitcoin ETF ถูกคาดว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการกลับตัวของตลาดครั้งนี้

Bitcoin ETF มีข้อดีตรงที่มันเปิดโอกาสให้นักลงทุนระดับสถาบัน และสถาบันการลงทุนต่าง ๆ สามารถลงทุนใน Bitcoin ได้ โดยปกติ ซึ่งสถาบันการเงิน หรือกองทุนใหญ่ ๆ จะมีกฎว่าจะลงทุนในตลาดที่ได้รับการควบคุมอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น แต่ตลาดคริปโตในปัจจุบันยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างถูกต้องเท่าไรนัก จึงทำให้ไม่มีเม็ดเงินจากกลุ่มดังกล่าวยังไม่ไหลเข้ามา แต่หาก Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติ มันจะทำให้พวกเขาสามารถเข้ามาลงทุนได้ เพราะว่า Bitcoin ETF จะเปิดให้ลงทุนได้ผ่านตลาดที่ได้รับการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย พร้อมทั้งนักลงทุนยังไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาต่าง ๆ เช่น เว็บเทรดถูกแฮ็ก หรือการใช้งานเว็บเทรดคริปโตต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคยอีกด้วย

นอกจากนี้มันยังเปิดโอกาสให้ นักลงทุนรายย่อยทั่วไปที่อยากลงทุนใน Bitcoin แต่ไม่มีความรู้ว่าทำอย่างไรสามารถลงทุนในสินทรัพย์ใหม่เช่น Bitcoin ผ่านช่องทางที่เขาคุ้นเคยได้อีกด้วย

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เมื่อมีเงินไหลเข้ามามากขึ้นตลาดคริปโตก็ย่อมต้องเติบโตเป็นธรรมดา และเมื่อตลาดเติบโต คริปโตที่นักลงทุนซื้อไว้ก่อนหน้าก็จะเติบโตตามไปด้วย เลยเป็นเหตุว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงเฝ้ารอ Bitcoin ETF กันอย่างใจจดใจจ่อ และยิ่งเมื่อปีที่ผ่านมาที่ Bitcoin Futures ได้รับการอนุมัติในปลายปี ทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งไปแตะจุดสูงสุดเกือบ 20,000 ดอลลาร์ ยิ่งทำให้กระแสของ ETF แรงขึ้นไปอีก

กระแสที่ลดลง

ถึงแม้กระแส Bitcoin ETF จะมาแรงแค่ไหนก็ตาม คำขอเหล่านั้นก็ได้ถูกปฎิเสธเป็นที่เรียบร้อย เมื่อไร้ซึ่งความหวัง การที่นักลงทุนเริ่มหมดความสนใจในตลาดคริปโตนั้นก็เป็นเรื่องปกติ สังเกตได้จากราคาของคริปโตต่าง ๆ ในตลาดที่เกิดขึ้นหลังจากการประกาศไม่อนุมัติเกิดขึ้น โดยเริ่มที่ Bitcoin ลงไปแตะที่ระดับ 6,400 ดอลลาร์อีกครั้ง พร้อมทั้ง Altcoins ตัวอื่น ๆ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจสื่อได้ว่าผู้คนที่ถือคริปโตไว้เพื่อรอลุ้นคำขอ Bitcoin ETF ว่าจะได้รับอนุมัติหรือไม่นั้น ได้ทำการเทขายหลังจากที่ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้

มองหาความหวังใหม่

หลังจากความหวังที่หมดไปสำหรับ Bitcoin ETF ในรอบนี้ ชุมชนคริปโตเริ่มมองหาความหวังใหม่ ๆ ต่อไป เพื่อที่เข้ามากู้สถานการณ์ตลาดในตอนนี้ เช่นก่อนหน้า Bitcoin ETN ได้เปิดให้สามารถซื้อได้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจาก Bitcoin ETF ที่นักลงทุนทั่วไปจะสามารถลงทุนใน Bitcoin ได้โดยไม่จำเป็นต้องครอบครองมัน

Bitcoin ETN แตกต่างกับ Bitcoin ETF ตรงที่มันเป็นตราสารหนี้ที่จะถูกรองรับโดยผู้ออก ETN เช่น ธนาคาร แทนที่จะอ้างอิงกับราคาของสินทรัพย์โดยตรง แต่ก็ดูเหมือนตลาดจะไม่ได้มีผลตอบรับที่ดีเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตาม ยิ่งตลาดเข้าสู่ขาลงนานเท่าไร ก็แปลว่ามันยิ่งมีโอกาสกลับตัวเพิ่มขึ้นสูงเท่านั้น เนื่องจากเมื่อราคาของ Bitcoin ทะยานขึ้นนั้น มันมักจะมีแนวต้านอยู่เสมอ หรือแรงขายที่จุด ๆ หนึ่งซึ่งคนกลุ่มหนึ่งพอใจในราคานี้เลยทำการขาย ส่งผลให้การเทขายและการเข้าซื้อต้านกัน ราคาเลยไม่ค่อยไปไกลเท่าไรนัก แต่เมื่อสภาวะตลาดที่ทุก ๆ คนขายเพราะทนสภาพตลาดไว้ไม่ไหวเรียบร้อยแล้ว มันกลับยิ่งทำให้การ FOMO ของ Bitcoin เกิดแรงขึ้นไปอีกเมื่อ Bitcoin ทะยานขึ้นครั้งต่อไป ซึ่งจะมีแต่แรงซื้อเหลือไว้เป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในรอบต่อไปนั้นจะขึ้นไปง่ายกว่าเดิม แต่ก่อนหน้านั้น นักลงทุนอาจต้องทนกับสภาพตลาดเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

สรุป

ถึงแม้ Bitcoin ETF จะถูกคาดหวังไว้สูงว่าจะเข้ามาช่วยตลาดคริปโต แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้ ตลาดคริปโตจะมีกระแสที่ลดลง เพื่อรอสัญญาณกลับตัวครั้งต่อไป ในขณะเดียวกัน ด้วยสภาวะกดดันของตลาด และการอยู่ในขาลงอย่างยาวนานเกือบ 1 ปี ก็อาจทำให้นักลงทุน FOMO Bitcoin แรงขึ้น และอาจส่งผลให้มันทำ All-time-high ได้ง่ายกว่าเดิมในครั้งหน้าก็เป็นได้ ซึ่งการไม่อนุมัติครั้งนี้ไม่ใช่ว่า SEC จะไม่เปิดรับคริปโตแต่อย่างไร แต่อาจจะเกิดจากความไม่พร้อมทั้งสองฝั่ง หากในอนาคตผู้ยื่นคำขอ Bitcoin ETF มีความพร้อมมากกว่านี้ การได้รับอนุมัติ Bitcoin ETF นั้นก็ยังคงเป็นไปได้อยู่

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น