มหาวิทยาลัยเซนต์ฟรานซิสซาเวียร์ (St. Francis Xavier University) ในโนวาสโกเทียประเทศแคนาดา ถูกโจมตีจาก Malware ขุดเหมืองคริปโต (Cryptojacking) จึงทำให้ทางสถาบันต้องทำการปิดเครือข่ายทั้งหมดเพื่อที่จะให้ Admin ผู้ดูแลระบบของมหาลัยได้ทำการลบ Malware ขุดเหมืองนี้ออกไป โดยการที่เกิดเหตุการณ์นี้บ่อยครั้ง ก็เหมือนเป็นการยอมรับว่า Cryptojacking เป็นเครื่องมือหรือเป็นตัวเลือกสำหรับอาชญากรบนโลกไซเบอร์ที่มุ่งเน้นไปที่ Cryptocurrency มากยิ่งขึ้น
เหยื่อรายล่าสุด
ทาง Globalnews.ca รายงานว่าการโจมตี Cryptojacking เริ่มต้นในวนที่ 1 พฤษจิกายนที่ผ่านมา โดยเพ่งเล็งไปที่เครือข่ายของมหาวิทยาลัยและทำการขุดเหรียญคริปโตโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลังจากที่ทางโรงเรียนตรวจพบ Malware ดังกล่าวแล้วนั้นทางโรงเรียนก็ทำการ Offline ระบบทันทีจึงทำให้ระบบ Online เช่นหลักสูตร Online ระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบ Cloud ธุรกรรมรูปแบบเดบิตและ Wifi ได้ชะงักลงทันที
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทางมหาลัยได้เปิดเผยว่าไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับถูกขโมยไป และในการป้องกันไว้ก่อนนั้นอาจจะต้องทำงานแบบ Offline ไปก่อนจนกว่าผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ของมหาลัยจะทำการแก้ไขได้ โดยในแถลงการณ์ได้ระบุว่า:
“ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยได้ทำการปิดระบบทั้งหมดและรู้ว่ากำลังโดน Cryptojacking ผ่านเครือข่ายของ StFX”
Cryptojacking: ทำให้ผู้ดูแลระบบความปลอดภัยปวดหัว
มีรายงานว่า Cryptojacking มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากอาชญากรได้ปรับเปลี่ยนวิธีการที่จะทำการฝัง Malware อยู่เรื่อย ๆ โดยล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพบว่ามีการทำ Adobe Flash Update ปลอมเพื่อทำการฝัง Trojan แบบ Cryptojacking ลงที่รัฐบาลหลายแห่งทั่วประเทศ
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีรายงานว่า Malware ขุดเหรียญเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า Ransomware เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น