<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สถาบันที่ลงทุนคริปโตเผยขาดทุนหนักกว่า 4,478 ล้านบาทในปีนี้ ชี้สาเหตุมาจากราคาร่วงหนัก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทด้านการลงทุนคริปโต Galaxy Digital ขาดทุนกว่า 136 ล้านดอลลาร์ใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2018

อ้างอิงจาก Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Galaxy Digital ธนาคารด้านการลงทุนลงทุนคริปโตของนาย Mike Novogratz ขาดทุนในไตรมาสที่ 3 กว่า 41 ล้านดอลลาร์ และหากนำไปรวมกับไตรมาส 1 และ 2 ธนาคารจะขาดทุนทั้งหมด 136 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,478 ล้านบาท รวมทั้ง ในเดือนที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทยังร่วงลงมาต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 55 เปอร์เซ็นต์

ทำไมถึงขาดทุน

สาเหตุหลัก ๆ ของการขาดทุนนั้นมาจากการที่พวกเขาไปลงทุนเข้าซื้อคริปโตสกลุหลัก ๆ เช่น Bitcoin (BTC), Ripple (XRP) และ Ethereum (ETH) แต่ราคาของมันมีมูลค่าร่วงลงไปเยอะมาก

Galaxy Digital ได้กล่าวว่า พวกเขาจะทำการปรับปรุงและเสริมให้ธุรกิจการเทรดคริปโตของเขาแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ยังชี้ด้วยว่า ปริมาณการเทรดคริปโตที่น้อยลงและคู่แข่งที่มากขึ้น ทำให้ทำการ Arbitrage ได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก

นาย Novogratz เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากในวงการคริปโต ซึ่งในปีนี้เขายอมรับว่า เป็นปีที่ “ค่อนข้างท้าทาย” สำหรับ Galaxy Digital เขาเคยออกมาทำนายว่า ในปี 2019 ตลาดคริปโตจะกลับเป็นตลาดกระทิงอีกครั้ง เนืองจากจะมีเงินไหลเข้ามาจากสถาบันการเงิน เช่นกองทุนคริปโตต่าง ๆ จะหันมาลงทุนในคริปโตจริง ๆ จัง ๆ ในไตรมาสแรกของปีหน้า

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาได้ชี้ว่าในปี 2019 ราคาของ Bitcoin จะพุ่งไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น และชี้ว่าในปีนี้ ราคาจะไปหยุดที่ 8,900 ดอลลาร์ ซึ่งต่างกับนาย Tom Lee หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Fundstrat ที่ได้ทำนายว่า ราคา Bitcoin จะไปแตะ 15,000 ดอลลาร์ในปลายปี 2018 ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ทำนายว่าะจะไปแตะ 25,000 ดอลลาร์

อ้างอิงจาก Coinmarketcap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 4,186 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 3.83 เปอร์เซ็นต์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีราคาต่ำกว่าระดับ 6,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบปี 2018 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นักขุดก็ได้รับผลกระทบ

นอกเหนือจากนักเทรดคริปโตแล้ว นักขุดคริปโตเองก็ได้รับผลกระทบจากตลาดขาลงเช่นกัน มีรายงานจาก Pool ขุดเหรียญคริปโตอันดับ 3 ของโลกว่า มีเครื่องขุด Bitcoin จำนวน 600,000 ถึง 800,000 เครื่องถูกดึงปลั๊กออก หรือไม่ทำการขุดต่อ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาของเหรียญร่วงลงอย่างหนัก ทำให้ขุดไม่คุ้มค่าไฟฟ้าอีกต่อไป

มีสัญญาณมากมายที่บ่งบอกว่า ตลาดขาลงในวงการคริปโตนั้นได้ส่งผลกระทบไปยังหลากหลายธุรกิจในอุตสาหกรรม หากยังมีสภาพเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จะเป็นการวัดว่า มีแต่โปรเจกต์ที่ดีจริง ๆ เท่านั้นที่อยู่รอด

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น