ตลาดหุ้นทั่วโลกมีมูลค่าลดลงหลายร้อยจุด แต่ตลาดคริปโตกลับมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์
หลังจากที่ Sideway มาอย่างยาวนานหลายวัน ตลาดคริปโตได้พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งสร้างเสียงฮือฮาให้กับนักลงทุนทั่ววงการ อ้างอิงจาก Coinmarketcap ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 1.03 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 1.13 แสนล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นสีแดง
ในทางกลับกันตลาดการเงินดั้งเดิมเช่น ตลาดหุ้นอย่าง Dow กลับมีมูลค่าลดลง 508 จุด หรือ 2.1 เปอร์เซ็นต์, S&P 500 ก็ลดลง 2.1 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน และไปแตะจุดต่ำสุดในรอบปี รวมทั้ง Nasdaq เองก็มีทิศทางเช่นเดียวกัน ซึ่งหากคิดในภาพรวมของเดือนธันวาคมแล้ว ทั้ง 3 ตลาดมีมูลค่าลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
สาเหตุที่มูลค่าตลาดหุ้นร่วงลงนั้น มาจากหุ้นสุขภาพมากกว่าหุ้นเทคโนโลยี เช่น หุ้นของ Johnson and Johnson ที่ร่วงลงอย่างฉับพลันหลังมีรายงานว่า พบแร่หินชนิดหนึ่งในแป้งของพวกเขา รวมทั้งหุ้นของ UnitedHealth และ Goldman Sach เองก็มีมูลค่าที่ลดลงเช่นกันจากข่าวแง่ลบ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการทะเลาะกับประเทศจีนอีกด้วย เลยอาจก่อให้เกิดสภาพตลาดเช่นนี้
ตลาดคริปโตสีเขียว
ในขณะที่ตลาดหุ้นกลับมีมูลค่าลดลงจากการเทขาย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2018 ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คริปโตอันดับหนึ่งอย่าง Bitcoin ก็มีราคาที่พุ่งขึ้นเกือบ 8 เปอร์เซ็นต์ เกือบแตะระดับ 3,600 ดอลลาร์
ในส่วนของ Altcoins อื่น ๆ เองก็มีทิศทางเช่นเดียวกันกับ Bitcoin อย่าง XRP ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 16 เปอร์เซ็นต์, Ethereum (ETH) ที่เพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์, EOS ที่เพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ หรือ Stellar (XLM) ที่เพิ่มขึ้นถึง 13.46 เปอร์เซ็นต์
พฤติกรรมของราคาดังกล่าวอาจจะเป็นไปได้ว่า นักลงทุนในสหรัฐฯ อาจจะขายหุ้นและมาถือคริปโตแทนก็เป็นได้ เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ
เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา นาย Tom Lee หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Fundstrat ยังคงเชื่อมั่นว่า Bitcoin จะไปแตะที่ราคา 15,000 ในปลายปี 2018 และเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา เขาก็ออกมากล่าวด้วยว่า จริง ๆ แล้ว ราคาควรจะไปอยู่ที่ 14,800 ไม่ใช่ 3,400 ดอลลาร์แบบตอนนี้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น