<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 อันดับคริปโตที่มีโอกาส Moon สูง เมื่อขาขึ้นมาถึงอีกครั้ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถึงแม้ตลาดขาลงในปีนี้อาจไม่ค่อยถูกใจนักลงทุนคริปโตเท่าไรนัก แต่มองอีกแง่หนึ่ง มันก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสสามารถเข้าไปช้อนซื้อเหรียญในราคาถูก ๆ ได้เช่นกัน

ตลาดคริปโตนั้นมีธรรมชาติเช่นเดียวกับตลาดการเงินทั่วไปคือ มีทั้งขาขึ้นแล้วขาลง และในตอนนี้สิ่งที่นักลงทุนควรทำคือ เตรียมพร้อมกับขาขึ้นรอบต่อไปให้ดีที่สุด เพราะมันอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คิดก็ได้

การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีนั้นยังคงเป็นหลักการที่ใช้ได้เสมอมา เช่นเดียวกับกับตลาดคริปโต พื้นฐานของเหรียญนั้นจะวัดมาจากเทคโนโลยี, การใช้งานจริงและที่สำคัญสุดคือชุมชนของมันนั่นเอง โดยในบทความนี้จะพาไปดูกันว่า เหรียญไหนบ้างที่เมื่อขาขึ้นในรอบต่อไปมาถึง มีโอกาส Moon สูง

Bitcoin (BTC)

Bitcoin คือ Cryptocurrency สกุลแรกในโลก และมันเป็นคริปโตที่มีมูลค่าโดยรวมมากที่สุดมายาวนานกว่า 10 ปีด้วย คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มันสามารถครองตำแหน่งมาได้นานขนาดนี้

ในตอนแรกมันถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือในการชำระเงินแบบ Peer-to-peer โดยไม่ผ่านธนาคาร และใช้แทนเงิน Fiat ทั่วไป เนื่องจากมีความ Decentralized ไม่สามารถถูกควบคุมได้ จนในปัจจุบันมันได้กลายเป็นหน้าตาของ Cryptocurrency ไปแล้ว คนรู้จัก Bitcoin เยอะกว่า Cryptocurrency

มูลค่าของคริปโตนั้นขึ้นอยู่กับชุมชนที่ใช้งาน ยิ่งชุมชนใหญ่ มูลค่าก็ยิ่งเยอะ และ Bitcoin คือคริปโตที่มีชุมชนยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ปัจจัยหลัก ๆ ที่ Bitcoin มีโอกาส Moon ในขาขึ้นรอบต่อไปมีอยู่ 3 ประการ

ประการแรกในแง่ของเทคโนโลยี ในขณะที่ตลาดขาลงส่งผลไปทั้งวงการ Bitcoin เป็นหนึ่งในคริปโตที่ไม่หยุดพัฒนา เครือข่ายของ Bitcoin แข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา อย่างล่าสุดก็ได้มีสตาร์ทอัพด้านคริปโตปล่อยจานดาวเทียมไปในอวกาศ ทำให้ Bitcoin สามารถทำงานได้ ถึงแม้จะไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ตาม เพราะใช้เครือข่ายดาวเทียมได้เช่นกัน

นอกจากนี้ นักพัฒนาในเครือข่ายยังตั้งใจที่จะลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมของ BItcoin อย่างต่อเนื่อง เช่น Lightning Network ที่มีการเติบโตขึ้นตลอดเวลา และคาดว่าในเร็ว ๆ นี้อาจมีการใช้งานได้จริงแล้ว โดยมันเคลมว่าสามารถทำธุรกรรมได้ถึง 1,000,000 รายการต่อวินาทีเลยทีเดียว มากกว่าตัวกลางชำระเงินเช่น VIsa หลายสิบเท่า

ประการที่สองคือ เงินลงทุนกำลังจะไหลเข้ามาในปี 2019 โดยเงินเหล่านั้นจะมาจากสถาบันการเงินใหญ่ ๆ กำลังจะทยอยสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับ Bitcoin ซึ่งแปลว่าจะมีเงินลงทุนก้อนใหญ่ ๆ กำลังเข้ามาใน Bitcoin และเมื่อมีเงินลงทุน ย่อมแปลว่าราคาที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ประการที่สามคือชุมชนของ Bitcoin นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก Bitcoin มีข้อดีที่เห็นได้ชัดเลย คือมันผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่า 10 ปีแล้ว ปี 2018 ไม่ใช่รอบแรกที่ Bitcoin เจอกับตลาดหมี ความเป็นจริงแล้ว มันผ่านสถานการณ์นี้มาหลายครั้งแล้ว และก็สามารถเอาตัวรอดมาได้เสมอมา มันแสดงให้เห็นว่า ชุมชนของ Bitcoin นั้นเหนียวแน่นแค่ไหน

Ethereum (ETH)

Ethereum คือคริปโตที่ปัจจุบันเป็นอันดับที่ 3 ของตลาด มันถูกออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำ Smart Contract ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักพัฒนา Blockchain ในปี 2017 จะเห็นได้ชัดว่า ICO ส่วนใหญ่เลย 50 เปอร์เซ็นต์ล้วนเกิดขึ้นบน Blockchain ของ Ethereum ทั้งสิ้น

ถึงแม้ในปี 2018 มันจะได้รับผลกระทบจากตลาดหมีอย่างหนักหน่วง แต่มันก็ยังคงเป็นอีกโปรเจกต์ที่ไม่ควรมองข้ามไปอยู่ดี เช่นเดียวกับ Bitcoin ปัจจัยที่ทำให้มันมีโอกาส Moon ในขาขึ้นรอบหน้าคือ ชุมชนและเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงปีที่ผ่านมาชุมชนของ Ethereum นั้นก็ยังคงเกาะกันเหนียวแน่นอนอยู่ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่ศรัทธาใน Ethereum จะเป็นนักขุดและนักพัฒนาซะส่วนใหญ่ เนื่องจากสำหรับนักขุด มันให้ผลตอบแทนเกือบดีที่สุด (ถึงแม้ตอนนี้จะชักปลั๊กกันซะส่วนใหญ่) และนักพัฒนาก็รู้สึกพอใจกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ Ethereum มีให้ ทำให้พัฒนา DApps ได้ง่ายดาย

ในแง่ของเทคโนโลยี เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Ethereum เลยก็ว่าได้ มันเป็นหนึ่งในคริปโตที่มีนักพัฒนามากที่สุด ตลาดปีที่ผ่านมา นักพัฒนา Ethereum เร่งมือทำตาม Roadmap ที่วางไว้เสมอเพื่อที่จะพัฒนา Blockchain ให้ได้ตามแผน และยังมีการนำเสนอทางเลือกแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องเช่น Sharding และ Casper เป็นต้น และในปีหน้าเองก็มีแผนจะทำการอัปเกรด Constantinople อีกด้วย

ถ้าขาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มันก็คงทะยานไปแตะ All-Time-High ได้ไม่ยาก เพราะคงมีโปรเจกต์มากมายใช้ Ethereum เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตซึ่งจะผลักดันราคาของมันให้สูงขึ้นไปอีก

Binance Coin ( BNB)

Binance Coin คือคริปโตอันดับที่ 14 ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับเว็บเทรดคริปโต Binance ในการลดค่าธรรมเนียมการเทรด

เหรียญดังกล่าวมีผู้สร้างเป็นเว็บเทรดคริปโต Binance หนึ่งในเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เหตุผลหลัก ๆ ที่ BNB นั้นมีโอกาส Moon ในรอบหน้ามีสองข้อ

อันดับแรก เว็บเทรด Binance เป็นหนึ่งในเว็บเทรดคริปโตที่ครองตำแหน่งปริมาณการเทรดมากที่สุดอันดับต้น ๆ มานานนับปีแล้ว เมื่อขาขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่า คนย่อมเทรดคริปโตมากขึ้น และคนเหล่านั้นย่อมอยากจ่ายค่าธรรมเนียมต่ำ ๆ ส่งผลให้ BNB เป็นที่ต้องการมากขึ้น เนื่องจากถูกนำไปใช้ลดค่าธรรมเนียม

นอกจากนี้ Binance ยังวางแผนที่จะเปิดเว็บเทรดแบบ Decentralized ในปี 2019 ซึ่งเหรียญ BNB จะมีการใช้งานมากขึ้นไปอีก

อันดับที่สอง คือปริมาณของเหรียญ BNB น้อยลงเรื่อย ๆ ตรงกันข้ามกับเหรียญส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการขุด เหรียญ BNB นั้นจะถูกทำลายเรื่อย ๆ โดยในทุก ๆ ไตรมาส Binance จะใช้กำไรที่ได้จากเว็บเทรดในการซื้อเหรียญคืนและทำลายมันทิ้ง ซึ่งการทำลายนั้นเองทำให้เหรียญมีจำนวนน้อยลง และเมื่ออะไรมีจำนวนน้อยลง สิ่งนั้นก็ย่อมมีมูลค่าที่มากขึ้น

ความต้องการที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตและจำนวนของเหรียญที่จะน้อยลงเรื่อย ๆ พร้อมกับทีมที่เชื่อใจได้อย่าง Binance Coin นั้นทำให้เมื่อขาขึ้นมาอีกรอบ มันมีโอกาสที่จะ Moon ได้ไม่ยากเลย

สรุป

โดยหลัก ๆ แล้ว เหรียญที่จะมีโอกาส Moon ในขาขึ้นรอบหน้าต้องมีคุณสมบัติเช่น มีความต้องการเหรียญนั้นเพิ่มขึ้น, มีเทคโนโลยีที่ดี และมีชุมชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งทั้ง 3 เหรียญนี้มีคุณสมบัติดังกล่าว ขาขึ้นที่จะมาถึงในรอบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปี 2019 หรือ 2020 ก็ตาม เหรียญเหล่านี้จะโอกาสอยู่รอด และ Moon ในอนาคตมากกว่าคริปโตโนเนมอย่างแน่นอน

หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น