เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เว็บเทรดคริปโตสัญชาติไทย Coin Asset ได้ประกาศว่า พวกเขาไม่ได้รับใบอนุญาตการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ซึ่งส่งผลให้ต้องงดให้บริการไปจนกว่าจะได้ใบอนุญาต
ราคาเหรียญ JFIN Coin
JFIN Coin หรือเหรียญ ICO สัญชาติไทยที่ลิสต์อยู่ในกระดานเทรดของ Coin Asset ได้ปรับตัวดิ่งลงมาเป็นอย่างมากที่ 0.76 บาทไทยเท่านั้น หลังจากที่มีการประกาศว่าทาง Coin Asset ไม่ได้รับใบอนุญาตการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
อ้างอิงจาก Facebook ของ JFIN Coin พวกเขาได้ระบุว่าผู้ใช้งานที่ถือเหรียญ JFIN Coin บนกระดานเทรด Coin Asset นั้นสามารถโอนเหรียญ JFIN ไปไว้ที่:
- Hardware Wallet (Ledger Nano S) (https://link.medium.com/DlbTAY3atT)
- MyEtherWallet (สำหรับท่านที่มี MyEtherWallet)
- JFIN Wallet (https://link.medium.com/kQ9dp00atT)
โดยทางกระดานเทรดเว็บ Coin Asset จะเปิดให้ซื้อและขายได้ถึงวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2019 เเละสามารถทำการถอน JFIN Coin เก็บเอาไว้บน wallet ดังกล่าวภายใน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019
JFIN Coin
JFIN Coin คือ Token ที่เอาไปทำระบบกู้เงินแบบบุคคลต่อบุคคล โดยใช้ระบบ Blockchain เป็นตัวดำเนินการและใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ในการควบคุม
Bitkub และ Satang Pro เข้าช่วยเหลือ
หลังจากที่ Coin Asset ประกาศออกไปไม่นาน เว็บเทรดคริปโตสัญชาติไทยอย่าง Satang Pro และ Bitkub ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เปิดให้บริการต่อไปได้ จึงประกาศตามหลังว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วย
ทางฝั่งของ Satang Pro ก็ได้ประกาศว่า จะรองรับเหรียญ JFIN ให้ผู้ใช้งานจาก Coin Asset มาฝากไว้ที่ Satang Pro ก่อนได้ ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่ลิสต์ JFIN ก็ตาม
ทางฝั่งของ Bitkub ได้จัดแคมเปญใหม่ว่า ผู้ใช้งานใหม่ที่สมัครในวันที่ 14 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์นี้ จะได้รับค่าธรรมเนียมในการเทรด (Fee Credits) สูงสุด 500 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่า ได้ผ่านขั้นตอนการอัปเกรดบัญชี, เทรดครั้งแรก, ฝากเงิน หรือฝากคริปโตไปหรือยัง
การที่ Satang Pro ประกาศรองรับเหรียญ JFIN ทั้งที่ทางเว็บ Satang Pro ยังไม่ได้ลิสต์ JFIN Coin นั้นแปลว่าอาจเป็นไปได้ที่ทาง Satang Pro นั้นอาจลิสต์เหรียญ JFIN Coin ขึ้นกระดานเทรดก็เป็นได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น