<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 สาเหตุที่ราคาของ Bitcoin กลับมายืนเหนือ 5,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบระยะเวลา 5 เดือนเมื่อวานนี้ แต่เหตุผลเบื้องหลังการเพิ่มขึ้นครั้งนี้ล่ะ คืออะไรกันแน่ ?

สำหรับผู้อ่านที่ซึ่งใส่ใจกับการอ่านและวิเคราะห์กราฟต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่น่าจะเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมากนัก ในการที่เหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาดได้มีการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วจาก 4,100 ดอลลาร์ไปสู่ 5,080 ดอลลาร์ภายในกรอบเวลาเพียง 60 นาทีในช่วงวันอังคารที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นการยืนยันอย่างดีถึงการเปลี่ยนทิศทางไปสู่ตลาดขาขึ้นหลังจากที่ได้มีการส่งสัญญาณมาเป็นระยะเวลาพอสมควร

ในความเป็นจริงแล้วหลังจากสภาวะตลาดขาลงที่ยาวนานนับปี เหล่านักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญได้รอคอยถึงการเปลี่ยนทิศทางของตลาดเมื่อราคานั้นเข้าตามรูปแบบทางเทคนิคของรูปแบบพื้นฐานของตลาดขาขึ้น กล่าวคือการเพิ่มขึ้นของราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด

ราคา Bitcoin นั้นได้พยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงการเพิ่มขึ้นของราคาต่ำสุดที่ $3,300 ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมารวมถึงการพยายามเพิ่มขึ้นของราคาสูงสุดซึ่งขึ้นไปแตะที่ $4,236 อ้างอิงจากฐานราคาสูงสุดซึ่งลดต่ำลงในวันที่ 24 เดือนธันวาคม

เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้นมาช้ากว่ากำหนด เนื่องจากการที่ช่วงราคาซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ Bitcoin นั้นลดต่ำลงไปสู่จุดต่ำสุดในรอบสองปีในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ความผันผวนของราคาอยู่ในระดับต่ำนั้นกลับสิ้นสุดโดยสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในด้านตรงกันข้ามแทน

กราฟจากวันที่ 25 เดือนมีนาคม แสดงให้เห็นว่าอัตราความผันผวนที่ต่ำนั้นสิ้นสุดลงโดยส่งผลให้เกิดสภาวะตลาดขาขึ้นอย่างรุนแรง เป็นไปได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยเหตุผลสามประการดังนี้

1.เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว กราฟราคาของ Bitcoin นั้นได้แสดงสัญญาณมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วถึงจุดต่ำสุดที่จะเกิดขึ้นในตลาด

ทุกอย่างเริ่มต้นในช่วงปลายของเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอัตรา moving average ของ Bitcoin ในคาบเวลา 50 สัปดาห์ได้ลดลงต่ำกว่าอัตรา moving average ของ Bitcoin ในคาบเวลา 100 สัปดาห์ อันเป็นการยืนยันการเปลี่ยนผ่านของตลาดขาลงไปสู่ตลาดขาขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมาษยนปี 2015

ในช่วงเวลานั้น เราได้มีการเขียนบทความถึงเหล่าดัชนีตัวบ่งชี้ที่เชื่องช้าทั้งหลายนั้นได้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นตลาดขาลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี เป็นการบ่งชี้ว่าราคา Bitcoin นั้นน่าจะลงไปแตะจุดต่ำสุดหลังจากการลดลงของราคานานนับปี

สิ่งที่พวกเราได้กล่าวไว้คือ : หากจะกล่าวอย่างง่ายๆคือมันเป็นการยากสำหรับสภาวะตลาดขาลงนี้ในการที่จะผลักดันอัตรา MA ในคาบเวลา 50 สัปดาห์ให้ต่ำลงไปกว่าอัตรา MA  ในคาบเวลา 100 สัปดาห์ ซึ่งผลของของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นโดยปกติแล้วจะก่อให้เกิดการสิ้นสุดลงของสภาวะตลาดขาลง เมื่อการเปลี่ยนผ่านของสภาวะตลาดได้รับการบยืนยัน โดยในกรณีนี้เป็นไปได้มากสำหรับ Bitcoin

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่ออ้างอิงตามดัชนีซึ่งอาศัยช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า อย่างเช่นอัตราการไหลเวียนของเงินหรือ money flow index (MFI) รายสัปดาห์ และอัตรา moving average convergence divergence (MACD) ดัชนีเหล่านี้จะเป็นหลักฐานชั้นดีในการยืนยันถึงการเปลี่ยนทิศทางของตลาด

ในวันที่ 4 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา อัตรา MFI ได้ลงไปแตะอัตราต่ำสุดที่เพิ่มขึ้นอันเป็นจุดต่ำสุดที่ 22.00 ตรงกันข้ามกับอัตราราคาต่ำสุดของ Bitcoin ซึ่งลดลง  ทิศทางการเปลี่ยนแปลงในทางขาขึ้นซึ่งมีความขัดแย้งกันเองนี้นั้นได้ถูกยอมรับเป็นวงกว้างในฐานะของสัญญาณเตือนล่วงหน้าของการเปลี่ยนผ่านสภาวะตลาดจากตลาดขาลงไปสู่ตลาดขาขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงซึ่งเราได้พิจารณาไว้ ณ เวลานั้น การเพิ่มขึ้นของอัตรา MFI ได้แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของแรงกดดันในการเข้าซื้อหรียญ ในขณะที่การลดลงของอัตรา MFI ถูกพิจารณาว่าเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของแรงกดดันในการขายออกไปของเหรียญ

ในวันเดียวกันนั้น อัตรา MACD ซึ่งคำนวนการเคลื่อนไหวโดยการหักอัตรา MA ในระยะยาวออกจากอัตราในระยะสั้น โดยการมาถึงของตลาดขาขึ้นนั้นแสดงออกจากการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนของอัตรา MACD

นอกจากนั้นแล้วเหล่าดัชนีที่มีความเชื่องช้าทั้งหลายอย่าง การเปลี่ยนผ่านของตลาดขาลงโดยแสดงออกจากอัตรา MA ในระยะยาวยังได้มีการส่งสัญญาณการสิ้นสุดลงของการขายออกของเหรียญอีกด้วย

2.การเปลี่ยนแปลงรางวัลในการขุด Block โดยนำการ Halving มาใช้

การพัฒนาทางเทคนิคเหล่านี้นั้นมักจะส่งผลให้มีความคาดหวังในการเพิ่มขึ้นของราคาล่วงหน้าก่อนการมาถึงของการ halving อันเป็นการกำหนดให้อัตราของ Bitcoin ที่นักขุดสามารถที่ขุดได้ลดลงโดยการโปรแกรมไว้ล่วงหน้า

โดย Bitcoin นั้นได้ถูกวางโปรแกรมให้ต้องผ่านช่วงเวลาการปรับลดของอัตรารางวัลการขุดที่จะได้รับ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้ อีกทั้งข้อมูลในอดีตได้แสดงถึงการที่กระบวนการดังกล่าวจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงินคริปโตนี้ล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งปี (ชุดกฎคำสั่งดังกล่าวได้ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ดำเนินการลดอัตราการออกเหรียญใหม่โดยอัตโนมัติหลังจากมีการขุดเกิดขึ้นแล้วในปริมาณหนึ่ง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา)

ทางตลาดได้มีการพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าวในช่วงเดือนธันวาคมปี 2018 หลังจากการเกิดขึ้นของเหตุการณ์การเทขายครั้งใหญ่ในราคาที่ $3,100 โดยรูปแบบราคาที่มีความเฉพาะเจาะจงนี้ได้เตือนให้นึกถึงการสิ้นสุดลงของตลาดขาลงครั้งก่อนซึ่งมีราคาต่ำสุดที่ $150 ในช่วงต้นของเดือนมกราคม ปี 2015 ซึ่งคิดเป็นเวลา 17 เดือนก่อนการ Halving ของอัตรารางวัลการขุดที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปี 2016

เป็นที่แน่นอนตามข้อมูลในอดีตว่าเหล่านักเทรด Bitcoin นั้นตอบสนองต่อการ Halving โดยการดำเนินการดังกล่าวทำหน้าที่เป็นทั้งสัญญาณและตัวเร่งให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในตลาด

เรื่องราวดังกล่าวที่ระบุถึงการตั้งค่าให้ราคา Bitcoin นั้นเปลี่ยนแปลงอย่างเช่นที่เคยเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต โดยการเปลี่ยนแปลงสู่ตลาดขาขึ้นหนึ่งปีล่วงหน้าก่อนการมาถึงของการดำเนินการ Halving ของรางวัลแก่นักขุด (ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปี 2020 ) ได้มีการพูดถึงอย่างจริงจังในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปได้ว่านี่คืออีกหนึ่งสาเหตุให้ราคานั้นพุ่งทะลุเป้า เปลี่ยนตลาดให้อยู่ในสภาวะตลาดขาขึ้นเมื่อวานนี้

3.กิจกรรมภายในตลาด

สำนักข่าว Reuters ได้มีรายงานเมื่อวานนี้ว่า ได้มีการจัดการซื้อขายโดยอาศัยอัลกอริทึ่มหนึ่งรายการซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์เกิดขึ้นในหลายบริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนวกุลเงินคริปโตอย่างเช่น Coinbase, Kraken และ Bitstamp ซึ่งส่งผลให้ราคานั้นพุ่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในรอบหลายเดือน

ในขณะเดียวกันข้อมูลจาก Bitfinex ได้แสดงถึงการผ่อนลงของสภาวะตลาดขาลงว่าได้ก่อให้เกิดแรงกดดันขึ้นในราคาของ Bitcoin โดยอัตราราคาซื้อขายระยะสั้นของ Bitcoin ต่อดอลลาร์สหรัฐฯนั้นลดลงจาก 20,654 BTC ลงไปสู่ 17,103 BTC ในช่วงระหว่าง 04:00 และ 06:00 ตามเวลาสากลเมื่อวานนี้ และยังได้ลดลงไปสู่ระดับที่ 16,978 BTC ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2018

เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้แล้ว ราคา Bitcoin นั้นจะเกิดการกลับตัวเล็กน้อยไปสู่ระดับราคาที่ต่ำกว่า $4,700 เป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมแล้ว ระดับราคาดังกล่าวจะคงอยู่ในช่วงของตลาดขาขึ้นอยู่ตราบใดที่ราคา Bitcoin นั้นอยู่ในช่วงราคาที่สูงกว่า $4,236

แล้วจากนี้จะเกิดอะไรต่อไป ?

Bitcoin อาจจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยยะสำคัญเกิดขึ้นเพิ่มอีกในเร็วๆนี้ เนื่องจากตลาดนั้นอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างมั่นคงเป็นช่วงสั้นๆ

ราคา Bitcoin ได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของเมื่อวานอีกครั้งในช่วงต้นของวันนี้ที่ราคา 4,080 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งทิศทางของตลาดขาขึ้นยังมาพร้อมกับอัตราราคาสูงสุดที่ลดลงซึ่งแสดงโดยดัชนี relative strength index (RSI)

การเบนออกจากสภาวะตลาดแบบขาลงนั้นแสดงถึงกรอบของการกลับตัวของราคาลงเล็กน้อยของอัตรา MA ในช่วงคาบเวลา 50 สัปดาห์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ที่ $4,572

ทั้งการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกินกว่ารูปแบบสามเหลี่ยมที่ได้คาดการณ์ไว้ และอัตราราคาสูงสุดที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดขาขึ้นที่ $4,236 ได้แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นไปอีก โดยอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาไปถึงอัตรา MA ที่ลดลงของช่วงคาบเวลา 5 สัปดาห์และ 10 สัปดาห์

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากกราฟระยะสั้นซึ่งแสดงถึงสภาวะการเข้าซื้อที่มากเกินไปนั้น การที่ราคาจะพุ่งทะลุอัตรา exponential moving average (EMA) ในรอบ 21 เดือนที่ราคา $5,200 ได้นั้นน่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

ที่มา : coindesk

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น