หนึ่งในผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่โด่งดังและมาแรงในขณะนี้อย่างอนาคตใหม่ ได้เผยให้เห็นว่าเขานั้นได้รับการบรรจุเป็น ส.ส. และได้เข้าไปในสภาแล้ว โดยเขานั้นเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain และ Bitcoin ตามที่คนในวงการคริปโตส่วนใหญ่ทราบดี
โดยอ้างอิงจากเพจสาธารณะของ ส.ส. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นั้น เขาได้มีการโพสต์ภาพถ่ายรูปหมู่ของ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ในพิธีเปิดประชุมสภาในวันนี้ ซึ่งเผยให้เห็นว่าเขาที่เคยเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนอบรม Bitcoin Center Thailand นั้นอยู่ในภาพด้วย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่านายปกรณ์วุฒิ ผู้ที่สมัครเข้าบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่นั้นอาจได้ที่นั่งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ เนื่องจากว่าในขณะนั้นการเลือกตั้งในไทยไม่สามารถเผยให้ทราบผลเลือกตั้งได้ทันทีหลังเลือกตั้ง และจะต้องรอการคิดคำนวณสูตรใหม่จากทาง กกต. เสียก่อน
ทว่าในขณะนี้ พวกเราได้ทราบกันแล้วว่าจะได้เห็นผู้ที่ให้การสนับสนุน Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain รุ่นใหม่ไฟแรงเข้าไปนั่งในสภา และอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีในวงการคริปโตในไทยก็เป็นได้
ที่น่าสนใจคือในเพจสาธารณะของ ส.ส. ปกรณ์วุฒิ ได้มีการเขียนแนะนำตัวคร่าว ๆ เกี่ยวกับที่มาของเขา และบางส่วนในคำแนะนำตัวนั้นมีเขียนอยู่ว่า
“เมื่อปี 2560 ได้มีความสนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชน และสกุลเงินดิจิทัล จนได้ร่วมก่อตั้ง และดำรงตำแหน่ง CEO ของ Bitcoin Center Thailand ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนแห่งแรกของเมืองไทย และเป็นครั้งแรกที่ผมออกมาทำงานเบื้องหน้าในวงการอย่างเต็มตัว และได้มีโอกาสไปบรรยายในที่ต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และ สกุลเงินดิจิทัล[…]
การทำงานในแวดวงเทคโนโลยี ทำให้ผมมองเห็นว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนโลกเราไปในทางที่ดีได้อย่างมหาศาลหากเราใช้มันอย่างถูกวิธี เทคโนโลยีเป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ เพิ่มความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตของทุกคนได้มากมาย .. แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลไทย ดูเหมือนจะมีอาการ “กลัว” เทคโนโลยี เรากลัวการเป็นผู้บุกเบิก กลัวการทดลองอะไรใหม่ๆ เราได้แต่เฝ้ารอให้ทั่วโลกใช้กันอย่างกว้างขวางแล้วจึงทำตาม จนในบางครั้งเราเสียโอกาสในความก้าวหน้าไปอย่างมากมาย”
ส.ส. ปกรณ์วุฒิ ภาพจาก Startup Thailand
ก่อนหน้านี้ ส.ส. ปกรณ์วุฒิเคยได้ออกมาแนะนำให้ทางรัฐบาลใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลรัฐแบบโปร่งใส และตรวจสอบได้อีกด้วย
นอกจากนี้ทางสยามบล็อกเชนเคยรายงานไปแล้วว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เดินทางไปดูงานที่เมือง Zug ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้ลองทดสอบซื้อ Bitcoin จากตู้ ATM Bitcoin มาจำนวน 0.01 BTC ซึ่งเป็นการบอกใบ้ว่าเขาอาจจำนำเทคโนโลยีนีไปพัฒนาประเทศไทย หากได้เป็นรัฐบาล
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น