หน่วยงานผู้ที่มีความรับผิดชอบด้านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ก.ล.ต. ได้ออกมาประกาศผ่านเว็บไซต์ว่ากำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 9 หน่วยงานเพื่อหาวิธีในการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงในสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยรายงานบนเว็บไซต์นั้นเผยว่าทาง ก.ล.ต. ได้เข้าไปร่วมมือกับหน่วยงานทั้งหมด 9 หน่วยงานซึ่งประกอบไปด้วย
- ผู้บริหารและผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
- กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
- กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
- สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
- สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย
โดยจุดประสงค์นั้นก็เพื่อ
“ป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงให้ประชาชนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงดำเนินการเพื่อเพิ่มเครือข่ายในการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล”
นอกจากนี้เลขาธิการของ ก.ล.ต. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคลก็ได้กล่าวว่า
“การหารือในวันนี้ ทุกหน่วยงานได้อภิปรายแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยยับยั้งความเสียหายต่อประชาชนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากนี้จะมีการหารือแนวทางในการบูรณาการการทำงานเพิ่มเติม และพิจารณาจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่อไป”
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง ก.ล.ต. ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจที่เรียกว่า FX Trading Corp ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งทางหน่วยงานเผยว่าบริษัทดังกล่าวนั้นยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแต่อย่างใด โดย่ส่วนหนึ่งของการประกาศนั้นกล่าวว่า
“ทั้งนี้ ในเบื้องต้นพบการชักชวนให้ผู้ลงทุนเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท โดยอ้างว่า ใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งสามารถทำกำไรจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีให้กับผู้ลงทุนได้เป็นรายวัน รวมทั้งจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นหากสามารถชักชวนบุคคลอื่นให้เข้ามาลงทุนในเครือข่ายเพิ่มอีกได้
ก.ล.ต. ขอเรียนว่า FX Trading Corporation มิได้อยู่ในรายชื่อผู้ที่ได้รับอนุญาตหรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. แต่อย่างใด”
การประกาศดังกล่าวนี้เผยให้เห็นว่าทาง ก.ล.ต. นั้นเริ่มที่จะเอาจริงกับการปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่ต้องการจะเข้ามาฉวยโอกาสหลอกลวงและฉ้อโกงนักลงทุนในไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีความเข้าใจในเทคโนโลยี Blockchain และ Bitcoin ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ค่อนข้างน่าสนใจ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น