บริษัทด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิตอลอย่าง Grayscale นั้นได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลปริมาณของบริษัทและองค์กรซึ่งไม่แสวงผลกำไรต่างๆทั่วโลกซึ่งเปิดรับชำระเงินเป็น Bitcoin นั้นได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 100,000 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดเผยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านการตลาดของพวกเขาในชื่อแคมเปนจ์ “Drop Gold” ซึ่งทาบริษัทท้าทายให้คู่แข่งของ BTC อย่างทองคำนั้นหาร้านที่ลูกค้าสามารถจ่ายเป็นทองให้ได้
ทั้งนี้นอกจากตัวเลขดังกล่าวแล้วทางบริษัทยังได้เผยแพร่อินโฟกราฟฟิกซึ่งแสดงข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ Bitcoin รวมถึงเหตุผลและการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
ความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และเงินสกุลธรรมดาในปัจจุบัน
Bitcoin นั้นสามารถที่จะเข้าถึงและนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคนกลางเช่นธนาคารแต่อย่างใด อีกทั้งยังสามารถทำได้ในราคาที่ถูก และสามารถโอนแก่กันในระหว่างพื้นที่ใดๆของโลกก็ได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้นยังใช้เวลาเพียงชั่วขณะเท่านั้น โดยเป็นช่องทางการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีความปลอดภัย โปร่งใส และไม่ตกอยู่ใต้การควบคุมหรือคัดกรองจากหน่วยงานใดๆอีกด้วย
เหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้การลงทุนใน Bitcoin นั้นน่าสนใจ คือการที่สกุลเงินดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพัฒนา โดยตัวมันเองนั้นมีคุณสมบัติในการเป็นสิ่งซึ่งทรงคุณค่าในตัวเอง (Store-of-value) ซึ่งปลอดภัยต่อการเกิดอัตราเงินเฟ้อขึ้น จึงเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะแก่การลงทุนอย่างยิ่ง นอกจากนี้ Bitcoin เองยังทำหน้าที่เป็นทั้งสินทรัพย์ดิจิตอลสำหรับการลงทุน เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ และเป็นสกุลเงินซึ่งสามารถเข้าช่วยแก้ปัญหาสำหรับประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงมากเกินไปได้นั่นเอง
เมื่อพิจารณาตัวเลขต่างๆในตลาดของ Bitcoin แล้วนั้น จะพบว่าในช่วง 25 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าการไหลเวียนของเงินตรากว่า 68 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มตลาดใหม่ให้แก่วงการด้านการลงทุนซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดกว่า 1-5% โดยสามารถสร้างโอกาสด้านการลงทุนใหม่ๆซึ่งสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมในตลาดนั้นไม่สามารถให้ได้อีกด้วย
ในตลาดทั่วโลกนั้นยังมีผู้ใช้งาน Bitcoin ซึ่งมีการดำเนินการซื้อขายแลกเปลี่ยนอยู่ตลอดกว่า 7.1 ล้านคน อีกทั้งยังมีจำนวน Wallet สำหรับ Bitcoin ได้ถูกเปิดงานกว่า 32 ล้านรายอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงภาพคร่าวๆของการเติบโตในปัจจุบันของสกุลเงินรุ่นบุกเบิกอย่าง Bitcoin ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นระบบการเงินของทุกคนที่มีความเท่าเทียมและเป็นธรรม ด้วยความสามารถของสกุลเงินดังกล่าวที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้โดยอาศัยเพียงอุปกรณ์ใกล้ตัวอย่างโทรศัพท์มือถือนั้น ในที่สุดแล้วจะสามารถนำพาเราไปสู่โลกที่บริการทางการเงินนั้นเป็นของทุกคนได้นั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น