<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตำรวจฟิลิปปินส์เข้าบุกจับกุมบริษัทและพนักงานกว่า 277 คน ข้อหาฉ้อโกง Cryptocurrency

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจากแหล่งข่าวในพื้นที่ประเทศฟิลิปปินส์อย่าง Inquirer.net ในช่วงวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่จากทั้งสำนักตรวจคนเข้าเมือง คณะกรรมการต่อต้านการคอรัปชั่น และกองปราบปรามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกันเข้าจับกุมพนักงานของบริษัท Grapefruit Services Inc. ที่ดำเนินการฉ้อโกงนักลงทุนบนสกุลเงินคริปโตชาวจีนนับหลายพันราย บริษัทดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในเมืองปาสิคและถูกเข้าจับกุมในวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา 

นาย Jaime Morente ซึ่งเป็นกรรมาธิการของสำนักตรวจคนเข้าเมืองได้ออกมากล่าวว่าทางรัฐบาลจีนนั้นได้มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของพนักงานบริษัทดังกล่าวทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้พวกเค้ากลายเป็นคนต่างชาติซึ่งไม่ได้รับอนุญาติให้ทำงานภายในประเทศฟิลิปปินส์อีกต่อไป โดยพนักงานบริษัททั้งหมดกว่า 277 คนนั้นมีสัญชาติจีนทั้งสิ้น 

พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

สำหรับรายละเอียดของบริษัทดังกล่าวนั้น ทางบริษัท Grapefruit Services Inc. เป็นผู้ให้บริการซึ่งได้รับอนุญาตจาก บริษัท Golden Millennial Quickpay Inc. Ltd., ซึ่งดำเนินการโดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษคากายัน หรือ Cagayan Economic Zone Authority (CEZA)

สำนักงาน CEZA ดังกล่าวนั้นเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล โดยมีหน้าที่ดูแลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรืออิสระในพื้นที่ต้นเหนือของประเทศ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในการดึงดูดทั้งการลงทุนจากในและนอกประเทศ 

ทั้งนี้รัฐบาลได้เริ่มให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตในพื้นที่ดังกล่าวได้ตั้งแต่ช่วงเมษายนของปี 2018 แต่สำหรับบริษัท Grapefruit Services Inc. นั้นได้ดำเนินการนอกพื้นที่ดังกล่าว จึงขัดต่อกฎหมายและข้อกำหนดด้านการเงินของประเทศ 

ข้อบังคับพิเศษสำหรับสกุลเงินคริปโต

ตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศฟิลิปปินส์ได้มีการประกาศเลื่อนการออกกฎข้อบังคับเกี่ยวการการออกเหรียญคริปโต หรือ initial coin offerings ( ICO) ซึ่งได้มีการร่างไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2018 ออกไปอีก 

เมื่อพิจารณาลงไปในเนื้อหาของฉบับร่างแล้วจะพบว่าทางสำนักงานได้มีการกำหนดให้เหรียญซึ่งมีการดำเนินการออก ICO นั้นจะมีสถานะเป็นหลักทรัพย์ ซึ่ง “ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนต่อสำนักงาน และยังต้องมีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนอีกด้วย”

นอกจากนี้แล้วในช่วงกุมภาพันธ์ปี 2019 ทางสำนักงานได้มีการออกกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการออกสินทรัพย์ดิจิตอลประเภทโทเค็น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลตลาดสกุลเงินคริปโตและคุ้มครองเหล่านักลงทุนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งการเข้าถือประโยชน์และการเข้าถือครองสกุลเงินคริปโตนั่นเอง 

ที่มา : cointelegraph

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น