ในวันนี้สื่อข่าวหลาย ๆ สำนักกำลังร่วมกันประโคมข่าวของนาย Peter Schiff กันอย่างมากมาย หลังจากที่เขาออกมาวิจารณ์ Bitcoin ว่าไร้มูลค่า โดยที่เขานั้นได้ทำเหรียญ BTC ที่เก็บสะสมมาหายไปทั้งหมด
แต่ท่ามกลางเสียงมากมายที่รุมด่าทอนาย Peter Schiff อยู่นั้นก็มีหนึ่งเสียงสนับสนุนเขาที่ได้ยินแวว ๆ มาจากไกล ๆ ซึ่งก็คือบิดาผู้ก่อตั้งเหรียญ Ethreum ที่โด่งดังนาย Vitalik Buterin นั่นเอง
โดยนาย Vitalik ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีนี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเห็นด้วยกับนาย Peter Schiff ที่ว่ากระเป๋าเก็บคริปโตควรมีความปลอดภัยมากกว่านี้และควรมีโซลูชั่นการกู้ข้อมูลที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยวิธีกู้ข้อมูลแบบ social recovery erc wip ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด
Disappointed at people replying to this with "crypto is what it is, it's your job to be super-careful and write down backup seeds in three places". We can and should create better wallet tech to make security easier.
Eg. here's a social recovery ERC WIP: https://t.co/tuSbHhXKgd https://t.co/hCBAJKbK41
— vitalik.eth (@VitalikButerin) January 20, 2020
“ คริปโตเคอเรนซี่เป็นสกุลเงินที่คุณจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษและควรเก็บรหัสกู้คืน Back up seeds ไว้ในที่แตกต่างอย่างน้อย 3 แห่ง” นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกด้วยว่า “เราควรสร้างเทคโนโลยีของกระเป๋าเงินเก็บคริปโตให้ดีมากขึ้นกว่านี้เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมากขึ้น”
สาเหตุที่เงิน Bitcoin ของนักลงทุนทองคำ Peter Schiff หายไป
เมื่อสักครู่นี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่ามหาเศรษฐีชื่อดังเจ้าของ SchiffGold และ CEO ของ Euro Pacific Capital นาย Peter Schiff เพิ่งออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ล่าสุดว่า เขาได้ทำ Bitcoin ที่ซื้อเก็บไว้ทั้งหมดสูญหายไป
ทั้งนี้ผู้คนในชุมชนทวีตเตอร์ก็ได้ออกมาร่วมแสดงความรู้สึกสงสารเขากันมากมายและช่วยกันค้นหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับกระเป๋าเงิน Bitcoin ของเขา โดยบางคนเชื่อมันอาจเป็นเพราะการอัพเดทเวอรชั่นใหม่ของกระเป๋าเงินวอเล็ทก็เป็นไปได้ หรือบางทีเขาอาจจะกรอกรหัสผ่านสลับผิดไป
นาย Vitalik กำลังเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนาย Vitalik Buterin โดยหนึ่งในนั้นก็คือนาย Samson Mow CSO ของ Blockstream ที่ออกมาแขวะแนวคิดของนาย Vitalik ว่ามันเป็นเหมือนการรวมศูนย์อำนาจซะมากกว่า
“คุณน่าจะเรียกว่ามันว่า Ethereum social recovery นะ เพราะถ้าใครลืม Password ก็แค่โทรหาคุณเท่านั้นเอง”
Isn’t the Ethereum social recovery to just call you up?
— Samson Mow (@Excellion) January 20, 2020
อีกทั้งยังมีนาย Tuur Demeester แห่งบริษัท Adamant Capital ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ด้วยว่า “มันน่าจะเรียกว่า social consensus มากกว่านะ” เพราะเขามองว่ากลไก “Difficulty Bomb” ของ Ethreum ล่าสุดนั้นเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ที่มีความเป็นเผด็จการซ่อนอยู่
It's called social consensus
— Tuur Demeester (@TuurDemeester) January 20, 2020
นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่ร่วมวิจารณ์คำแนะนำให้ใช้วิธีการกู้ข้อมูล social recovery ของเขาว่าวิธีนี้มันอาจเป็นอันตรายต่อแวดวงเพื่อน ๆ ของคุณได้ เนื่องจากผู้ไม่หวังดีอาจจะกู้ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันได้ทั้งหมด
100% … but 'social recovery' has serious drawbacks (i.e. making your friends targets) and should be used judiciously – for smaller balances only
— Michael Haley (@rhizo_michael) January 20, 2020
ที่มา : u.today
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น