<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ Windows 10 กำลังทำให้ผู้ใช้งาน Cryptocurrency ตกอยู่ในความเสี่ยง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานจากทางสื่ออย่าง Window Latest นั้นได้ออกมาชี้ถึงช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ 10 โดยช่องโหว่ดังกล่าวนั้นมีที่มาจากโปรแกรมทางด้านความปลอดภัยของทาง Microsoft เองในชื่อ Windows Defender รุ่น 4.18.2003 

ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมากจาการทำงานของโปรแกรมดังกล่าวซึ่งบกพร่องในการตรวจสอบและค้นหาไฟล์ทั้งหมดได้ โดยพบว่าได้การหยุดการดำเนินการหรือข้ามการตรวจสอบบางไฟล์ไป หรือที่เป็นไปได้คือการที่โปรแกรมดังกล่าวได้รายงานการดำเนินการไม่ครบถ้วนนั่นเอง

อย่างไรก็ตามความบกพร่องดังกล่าวนั้นกลับไม่เกิดขึ้นหากได้มีการดำเนินการโดยไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังเกิดขึ้นแค่ในระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นที่ 10 เท่านั้นอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ทางบริษัท Microsoft นั้นก็ยังไม่ได้มีการออกการอัพเดทออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด

ช่องโหว่ดังกล่าวนั้นอาจส่งผลร้ายอย่างมากต่อผู้ใช้งานซึ่งได้ถือคริปโตหรือได้มีข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องเก็บรักษาไว้ในคอมพิวเตอร์ดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงของการถูกโจรกรรมข้อมูลจากการเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Wallet รวมถึงการฝังโปรแกรมเพื่อนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไปใช้งานในด้านต่างๆ 

ซึ่งที่ผ่านมานั้นก็ได้ปรากฎกรณีของผู้เชี่ยวชาญในวงการอย่างผู้ก่อตั้งเหรียญ VeChain ที่ได้สูญเสียเหรียญ VET ไปกว่าล้านเหรียญจากการดำเนินการของนักเจาะระบบที่ได้ฝังมัลแวร์ไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วยตัวของเขาอีกด้วย อีกทั้งกรณีของบริษัทการซื้อขายสินทรัพย์หลายแห่งที่ได้รับรับผลกระทบจากการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจากช่องโหว่ทางด้านการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย 

ทั้งนี้เราอาจจะพิจารณาได้ว่าช่องโหว่ทางความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์นั้นอาจจะไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เหล่านักลงทุนตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงต่อการสูญเสียเหรียญคริปโตของพวกเขา ซึ่งทางออกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นอาจเป็นการใช้งาน Hardware Wallet หรือการใช้งานอุปกรณ์พกพาอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ iOS นั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม แม้แต่ระบบปฎิบัติการซึ่งมีความปลอดภัยกว่าวินโดว์อย่าง MacOS หรือแอนดรอยด์นั้นก็ยังมีประวัติการถูกโจมตีโดยนักเจาะระบบมาก่อน อีกทั้งการฝากเหรียญไว้บนแพลตฟอร์มการซื้อขายต่างๆหรือผู้ให้บริการรับฝากเหรียญนั้นก็ยังไม่สามารถมั่นใจได้ 100% ดังนั้นแล้วนอกจากการใช้งาน Hardware Wallet ในการถือเหรียญระยะยาวแล้วนั้น สิ่งที่สำคัญคือการใส่ใจและการวางแผนในการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวรวมถึงรหัสต่างๆด้วยตัวเองเป็นต้น 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น