<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

โอกาสที่ราคา Bitcoin จะพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ในปีนี้มีเพียง 4% เท่านั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้นักวิเคราะห์หลายๆ คนจะเชื่อว่าราคา Bitcoin จะวิ่งสู่ตลาดขาขึ้น แต่เมื่อดูจากตลาด options แล้วมันดูท่าจะไม่เป็นเช่นนั้น

ในตอนนี้ Bitcoin มีราคาอยู่ที่แถวๆ ระดับ $6,450 ซึ่งร่วงลงมากว่า 200 เปอร์เซ็นต์จากจุดสูงสุดที่ $20,000 ในเดือนธ.ค. ปี 2017

ตลาด options ก็เป็นตัวแสดงว่ามันมีโอกาสเพียงแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ที่ราคา Bitcoin จะปิดตัวเหนือ $20,000 ก่อนสิ้นปี อ้างอิงข้อมูลจากบริษัท Skew จริงๆ แล้วความเคลื่อนไหวในช่วงเดือนธ.ค.ก็ยังคงน้อยไปเสียด้วยซ้ำ

ส่วนความเป็นไปได้ที่ราคา Bitcoin จะปิดตัวเหนือ $10,000 นั้นมีอยู่ 16 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของช่วงเดือนมิ.ย. 2019  มีความเป็นไปได้ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดที่ $13,880 ภายในเดือนธันวาคมนั้นอยู่ที่ 8 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ Options นั้นคือสัญญาล่วงหน้าที่ให้ผู้ซื้อมีสิทธิแต่ไม่มีหน้าที่ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ ณ ระดับราคาหนึ่งๆ (หรือที่เรียกว่า strike price) ในวันที่กำหนด call option คือให้สิทธิผู้ซื้อในการซื้อส่วน put option คือให้สิทธิผู้ขายในการขาย

การคำนวณดังกล่าวนั้นใช้ Black-Scholes formula เข้ามาช่วยโดยใช้ตัวชี้วัดสำคัญมาร่วมคำนวณ เช่น  ราคา call options, strike prices หรืออัตราดอกเบี้ยของการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงและเวลาครบกำหนดของสัญญา options

ความคาดหวังให้ราคา Bitcoin มุ่งสู่ขาขึ้น 

นักเทรดและผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนต่างคาดหวังให้ราคา Bitcoin ขึ้นโดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ซึ่งพวกเขาก็เชื่อว่ามันทำให้ Bitcoin ได้เปรียบ 

จำนวนการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 22 ประเทศในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือเท่ากับ 75 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลก ในขณะเดียวกันธนาคารกลางจากนิวซีแลนด์และแคนาดาก็ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือศูนย์ ธนาคารกลางสหรัฐประกาศโครงการซื้อสินทรัพย์ปลายเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นาย Luuk Strijers เป็น CCO ที่ Deribit กล่าวว่า

“การพิมพ์เงินและลดอัตราดอกเบี้ยอาจกลายเป็นตัวผลักดันให้คนสนใจ bitcoin มากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง”

ตลาดคริปโตก็ยังคงไม่สามาถเคลื่อนตัวอย่างอิสระจากตลาดหุ้นได้และปิดราคาอยู่ที่ $5,870  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้านซีอีโอของเว็บเทรด CoinSwitch นาย Ashish Singhal ก็กล่าวเช่นนั้นโดยเอามองว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีก็ยังคงมีทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นไปจนกระทั่งถึงไตรมาสที่สองของปีและอาจถึงไตรมาสที่สามเลยด้วย

นอกจากนี้เขามองว่าแนวโน้มขาลงยังมีแต่ค่อนข้างจะมีขีดจำกัดในระยะสั้นๆ เพราะตอนนี้คริปโตถูกมองเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อแล้ว

นักเทรดคาดหวังหลังการ Halving ราคา Bitcoin จะพุ่ง

ในช่วงการ Halving เกือบจะทุกคนในตลาดนั้นมองว่ามันจะมีส่วนที่จะช่วยผลักดันราคาเพราะการ Halving สองครั้งก่อนของมันก็เป็นเช่นนั้น

ด้านซีอีโอของ Depot ผู้ให้บริการตู้เอทีเอ็ม Bitcoin ก็มองว่าการ Halving นี้มันทำให้เศรษฐกิจของ Bitcoin เติบโตรวมถึงเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ด้วย

ด้าน COO ของ Stack Funds ก็คาดหวังให้การ  Halving มาช่วยดันราคา Bitcoin โดยเขากล่าวว่านักลงทุนหลายๆ คนก็คาดหวังเช่นนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการ Halving

แต่หากดูข้อมูลจาก Skew แล้วจะพบว่าความเป็นไปได้ตามที่นักเทรดคาดหวังนั้นค่อนข้างจะมีน้อย

chart2

ส่วนความเป็นไปได้ที่ราคา Bitcoin จะอยู่เหนือ  $6,000 ไปจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้อยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมันจะพุ่งไปแตะหลักหมื่นหรือไม่นั้นมีโอกาสเพียงแค่ 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อดูจากข้อมูลของตลาด options  

ส่วนโอกาสที่ Bitcoin จะพุ่งแตะ  $10,000 ในสิ้นเดือนมิ.ย.นั้นอยู่ที่  12 เปอร์เซ็นต์และสิ้นเดือนก.ย.มีโอกาสที่ราคาจะไต่ขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์

ที่มา : coindesk

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น