<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 สาเหตุที่ราคา Bitcoin ร่วงแตะ 8,100 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ก่อนการ Halving ที่จะถึงในคืนนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่า Bitcoin ต้องเผชิญกับแนวต้านที่แข็งแกร่งอีกครั้งที่ระดับ $ 10,200 เนื่องจากปลาวาฬหรือเหล่าเจ้ามือเริ่มทำการ liquidate สถานะ Long position ของพวกเขาและส่งผลให้ BTC มูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ถูกเทขายออกไปในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง 

Bitcoin สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่มันได้ร่วงแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,700 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนมีนาคม เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นมาขยับเข้าใกล้ 10,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อ BTC ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ Halving แต่ตอนนี้เราจะสังเกตเห็นได้ว่าราคา Bitcoin เริ่มค่อย ๆ ปรับตัวลดลงมาแล้ว ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น 

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเหตุการณ์ Halving จะเกิดขึ้น BTC ไม่สามารถเบรคทะลุเหนือแนวต้านที่ระดับ $ 10,000 ได้และร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ $ 9000 อีกครั้งในวันอาทิตย์ เพียงสองวันก่อนเหตุการณ์ Halving จะเกิดขึ้น โดยราคาได้ร่วงลดลงกว่า 10% มาอยู่ที่ระดับ $ 8,600

ในขณะที่รายงานอยู่นี้ BTC มีการซื้อขายที่ระดับ $ 8,627 โดยมีมูลค่าตลาดโดยรวมที่ 1.59 แสนล้านดอลลาร์

ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการ liquidate สัญญา Long position มูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ บนเว็ปเทรด Bitmex  ซึ่งในบทความเรามาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงก่อน Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

ความผันผวนครั้งใหญ่บนแพลตฟอร์มซื้อขาย Bitcoin Future เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคา BTC ร่วง

ก่อนที่ราคา Bitcoin จะร่วงลดลง เราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีกิจกรรมการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่สำคัญทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแพลตฟอร์มการซื้อขาย Bitcoin Future ที่มีวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

สัญญา Option เว็ปเทรด Deribit มีวอลุ่มซื้อขายพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาล ในขณะที่จำนวนสัญญาฟิวเจอร์ของ CME พุ่งทำลายสถิติสูงสุดใหม่ และเว็ปเทรด Bitcoin แบบสปอตก็มีวอลุ่มการซื้อขายพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดเดิมของปี 2017 ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน

ในอดีตเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin นั่นได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเป็นจำนวนมากก่อนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น นักลงทุนหน้าใหม่ได้กระโดดเข้ามาในตลาดเพื่อซื้อ BTC ดังนั้นมันจึงเปิดโอกาสในการเทขายที่จุดสูงสุดสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ Halving ในปี 2016 ราคาก็ได้ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

วาฬเทขาย BTC ในขณะที่มันพยายามเบรคตัวพุ่งขึ้นไปเหนือระดับ $ 10,000

ในขณะที่ Bitcoin พยายามดิ้นรนพุ่งขึ้นไปเหนือแนวต้านที่สำคัญที่ระดับ $ 10,200 วาฬส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะเทขายหรือ Short Bitcoin ในเว็ปเทรดคริปโตที่สำคัญ ๆ โดยเราจะเห็นได้จากจำนวนสัญญา Bitcoin บนเว็ปเทรดฟิวเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดทั้งสี่แห่งมีจำนวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนั่นอาจมาจากการเทขายครั้งใหญ่

ตัวชี้วัดอีกตัวหนึ่งที่เราเรียกว่า “funding rate” ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นลบบนเว็ปเทรด Bybit, Binance Future และ BitMEX โดยอัตรา funding rate จะติดลบก็ต่อเมื่อราคา BTC เริ่มลดลง ซึ่งนี่แสดงให้ว่าตลาดฟิวเจอร์ส่วนใหญ่กำลังถือสัญญา Short position และ ราคา Bitcoin ก็มีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปอีก

Bitcoin เผชิญกับการแนวต้านที่แข็งแกร่งเป็นเวลาหลายปีแล้ว

ในอดีตที่ช่วงราคาระหว่าง $ 10,200 – $ 10,500 นั่นเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งสำหรับ Bitcoin มาโดยตลอด ซึ่งถ้าหาก Bitcoin สามารถทำลายสิ่งนี้ได้มันก็สามารถพุ่งขึ้นไปทำ new high ใหม่ได้โดยเริ่มตั้งแต่จุดนี้

เมื่อปีที่แล้วในเดือนมิถุนายน 2019 หลังจากที่ Bitcoin เบรคทะลุระดับ $ 10,500 ได้เป็นครั้งแรก มันก็ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไปสู่ระดับ $ 14,000 แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสองปีที่ผ่านมา Bitcoin ยังคงไม่สามารถก้าวข้ามผ่านระดับนี้ไปได้ ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่มันขึ้นมาทดสอบทั้งหมด 5 – 6 ครั้งในตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้นเมื่อ Bitcoin พยายามขึ้นมาทดสอบที่แนวต้านนี้อีกครั้งที่ระดับ $ 10,200 วาฬก็เริ่มทำการ liquidate สัญญา Long position ของพวกเขาบนเว็ปเทรด BitMEX และ Binance Future

ที่มา : coinspeaker