<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สาเหตุที่ Bitcoin จะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างมากหากจบวิกฤต COVID-19 แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทด้านการวิจัยระดับโลก Delphi Digital ได้ออกมาอธิบายว่า Bitcoin นั้นจะได้รับอานิสงค์จากการพิมพ์เงินของธนาคารทั่วโลกเพื่อเข้ามาอุ้มเศรษฐกิจในประเทศของพวกเขา หรือตามที่ Fed กล่าวว่า

“พวกเราจะยังคงซื้อ หลักทรัพย์ Treasury และหลักทรัพย์ที่มีอสังหาฯมาค้ำไว้ เพื่อที่จะสามารถให้การสนับสนุนตลาดเพื่อที่จะให้การส่งผ่านนโยบายการเงินสู่เศรษฐกิจในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ”

โดยทาง Delphi Digital กล่าวว่าจำนวนเงินที่ถูกพิมพ์ออกมาเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจทั่วโลกราว ๆ 10 ล้านล้านดอลลาร์นั้นอาจส่งผลทำให้ Bitcoin ที่มีจำนวนจำกัดสามารถที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีชัยชนะเหนือสกุลเงินอื่น ๆ ได้ในท้ายสุด

การใช้ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

การตัดสินใจพิมพ์เงินของรัฐบาลทั่วโลกอย่างไร้ขีดจำกัดนั้นอาจจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโลกในทางลบอย่างรุนแรงในเร็ว ๆ นี้ อ้างอิงจาก Delphi Capital ซึ่งการทำแบบนี้จะส่งผลทำให้บางสกุลเงินที่เคยเป็นสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกต้องสูญเสียมูลค่าไปในะระยะยาว และนั่นหมายถึง Bitcoin ที่จะได้ประโยชน์จากตรงนี้

“เป็นที่สังเกตได้ว่าวงจรของ Bitcoin ก่อนหน้านี้มันมักจะพุ่งไปจุดสูงสุดเมื่อกาาเติบโตของสินทรัพย์ของธนาคารกลางใหญ่ ๆ ของโลกเริ่มที่จะถดถอยลง” กล่าวโดย Delphi Capital

แม้ว่ามันอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควรสำหรับ Bitcoin ในการเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินนั้น ดูเหมือนว่าในขณะนี้มันเริ่มที่จะมีศักยภาพที่เหนือกว่าสกุลเงินอื่น ๆ ของบางประเทศทั่วโลกแล้ว

ยกตัวอย่างเช่นสกุลเงินรูเบิลหากนำมาเทียบกับ BTC นั้นจะเห็นว่าศักยภาพของมันนั้นเหนือกว่าถึง 44% ตั้งแต่ช่วงต้นปีมาจนถึงตอนนี้ ในขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ อย่างเช่นดอลลาร์นั้นเผยให้เห็นว่า BTC นั้นมีมูลค่าเหนือกว่าถึง 20% และในขณะที่เงินเรียลของบราซิลนั้นอยู่ที่ 74% เลยทีเดียว

การที่กราฟด้านบนเผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งต่อสกุลเงินเหล่านี้ทำให้ทาง Delphi คาดหวังว่าเจ้าสินทรัพย์ safe haven ตัวนี้จะกลายมาเป็นตัวช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียมูลค่าของสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ

ผู้ถือ Bitcoin กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่กระนั้น ตัวบ่งชี้แบบ on-chain เผยให้เห็นถึงความต้องการของเหรียญ Bitcoin ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ ซึ่งนี่อาจถูกมองได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของเหรียญว่าผู้ใช้งานนั้นเริ่มที่จะเติบโตจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกเขากล่าวว่าในปัจจุบัน มี 14% ของเหรียญ Bitcoin ทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้ใน address เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร และ address หล่านั้นมีจำนวนน้อยกว่า 10 BTC ในขณะเดียวกันจำนวน BTC ที่ถูกถือไว้โดยเว็บเทรดนั้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว อ้างอิงจาก Coin Metrics

“จำนวนของ BTC ที่ถูกถือไว้บน BitMEX และ Bitfinex นั้นได้ลดลงแตะจุดต่ำสุดแล้วตั้งแต่ช่วงการร่วงของราคาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย Bitfinex นั้นถือ Bitcoin ไว้อยู่ที่ 93.8k BTC ร่วงลงมาจาก 193.9k BTC ของเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนการถือ Bitcoin บนเว็บ BitMEX นั้นร่วงลงมาที่ 216k BTC จาก 315.7k BTC ของเมื่อเดือนมีนาคม อ้างอิงจาก Coin Metrics”

แม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Bitcoin นั้นจะทำปฏิกิริยาอย่างไรต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกในอนาคตต แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นสถาบันการเงินส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าพลังของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นหลัก ๆ ก็คือการใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง ก่อนหน้านี้นักลงทุนระดับพันล้านนาย Paul Tudor Jones ออกมาประกาศว่าเเขานั้นได้ลงทุน 2% ของเงินทั้งหมดของเขาไปใน Bitcoin เพื่อป้องกันวิกฤต COVID-19

เช่นเดียวกัน ประชาชนนับพันจากประเทศอาร์เจนตินา, ชิลี, โคลัมเบีย, เวเนซุเอลา, และอียิปต์ก็กำลังแห่กันเข้าไปซื้อ Bitcoin เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในประเทศของพวกเขา ซึ่งในจุดนี้ทาง Delphi สรุปไว้ว่าการหันหลังให้ Bitcoin นั้นไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกอีกต่อไปแล้ว