<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การเปิดตัว Proof of Stake ของ Ethereum กำลังใกล้เข้ามาแล้ว อะไรคือสิ่งที่คุณควรรู้ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ก่อนหน้านี้การเปิดตัว Ethereum Proof of Stake มีกำหนดเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2020 แต่อย่างไรก็ตามการเปิดตัวนั่นได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดและมันก็ยังไม่ชัดเจนว่ามันจะมีกำหนดการเปิดตัวอีกทีเมื่อไหร่ ? จนกระทั่งในที่สุดผู้ก่อตั้งเหรียญ cryptocurrency อันดับสองของโลกอย่างนาย Vitalik Buterin ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะเปิดตัวจริง ๆ ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

แม้ว่าหลายคนอาจจะเริ่มผิดหวังสำหรับเรื่องนี้แล้ว แต่ถึงกระนั้นในบทความนี้เราก็จะมาอัพเดตรายละเอียดล่าสุดเกี่ยวกับการเปิดตัว Ethereum Proof of Stake ให้ทุกคนได้ทราบกัน เนื่องจากมันเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทุกคนให้ความสนใจกันมากที่สุดในวงการคริปโต

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่า Proof of Stake คืออะไรหรือ Ethereum 2.0 คืออะไรและทำไมมันถึงมีความสำคัญต่อวงการคริปโต คุณยิ่งควรต้องอ่านบทความนี้

Proof of Stake คืออะไร?

ในเครือข่าย blockchain เช่น Bitcoin หรือ Ethereum มันจะมีวิธีการตรวจสอบการทำธุรกรรมในลักษณะการกระจายอำนาจโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจจากส่วนกลาง เช่น ธนาคาร โดยปัจจุบัน Ethereum รวมถึงคริปโตเคอเรนซี่ตัวอื่น ๆ เช่น Bitcoin กำลังใช้สิ่งที่เรียกว่า Proof of Work (PoW) นี้อยู่

ในระบบ PoW นักขุดจะใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น CPU , การ์ดจอ หรือ เครื่องขุด ASIC เพื่อแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนในการแข่งขันเพื่อตรวจสอบธุรกรรมของเครือข่าย ดังนั้นด้วยการเป็นคนแรกที่แก้ไขสมการนี้สำเร็จ นักขุดคนนั้นก็จะได้รับสิทธิ์ให้สามารถเพิ่มทรานแซคชั่นใหม่ (ซึ่งรวมกันเป็น “Block”) เข้ามาบนเครือข่าย blockchain และสำหรับความพยายามนั้น พวกเขาจะได้รับรางวัลสำหรับสร้างบล็อกตอบแทน 

PoS เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม (“consensus”) และมีวิธีการทำงานที่แตกต่างจาก PoW โดยแทนที่จะใช้นักขุดมาแก้สมการ ระบบ POS จะใช้เงินคริปโตของผู้ใช้งานมาเป็นตัวตรวจสอบธุรกรรม (stake) และมอบรางวัลค่าธรรมเนียมที่ได้รับจากเครือข่ายเป็นการตอบแทน

โดยรางวัลที่ได้รับจากการ Stake นั้นจะขึ้นอยู่กับเครือข่ายหรือปัจจัยบางอย่าง เช่นจำนวนของเหรียญที่ถูกค้ำประกันเอาไว้ ซึ่งหลักการของ POS นั้นก็จะคล้าย ๆ กับ PoW ซึ่งเมื่อคุณตรวจสอบบล็อกธุรกรรม คุณก็จะได้รับรางวัลเหรียญคริปโตก็การตอบแทน แต่ถ้าหากผู้ตรวจสอบธุรกรรมของ POS พยายามที่จะปลอมแปลงธุรกรรมปลอมหรือทำอันตรายต่อเครือข่าย (หลักประกันหรือเหรียญที่คุณค้ำประกันเอาไว้) ก็จะถูกลบหายไปทั้งหมด 

Proof of Work vs Proof of Stake

อะไรคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก Proof of Work ไปเป็น Proof of Stake หรือว่าท้ายที่สุด Ethereum จะไม่ได้เป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย ?

หนึ่งในความกังวลหลัก ๆ ของ PoW นั่นก็คือ จำนวนพลังงานที่ต้องใช้จ่ายในการขับเคลื่อนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งทุกคนคุ้นเคยกันดีกับการทำขุดเหรียญคริปโตอย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin นั้นใช้พลังงานอย่างมหาศาลซึ่งเทียบเท่ากับการใช้พลังของประเทศใด ประเทศหนึ่งเช่น ออสเตรีย

ด้วยเหตุนี้ Proof of Stake จึงไม่ต้องการให้ผู้คนใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองไปกับการตรวจสอบธุรกรรม และหลายคนคิดว่าระบบดังกล่าวนี้น่าจะดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเนื่องจากในอนาคตเครือข่ายคริปโตนั้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อย ๆ 

Proof of Stake Casper

Casper คือชื่อโปรเจค proof of stake ตัวใหม่ของ Ethereum (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Ethereum 2.0) โดยการเปลี่ยนผ่านจาก ETH 1.0 ไปยัง 2.0 (หรือการอัพเกรด “Serenity”) นั้นจะเกิดขึ้นใน 3 ขั้นตอนที่แยกออกมาต่างหาก

ปัจจุบันได้มีการติดตั้ง Casper ในเครือข่ายไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งก็คือ Casper Correct-by-Construction (CBC) และ Casper Friendly Finality Gadget (FFG) ซึ่งทั้งสองนั่นเป็นขั้นตอนดำเนินงานในเฟสที่ 1 ของ Ethereum 2.0

Proof of Stake Mining

ตอนนี้คุณอาจสงสัยว่าหาก Ethereum เปลี่ยนไปเป็น Proof of Stake แล้วและมันจะเกิดอะไรขึ้นกับนักขุดทั้งหมดของ Eth

อย่างไรก็ตามการขุด Ethereum นั่นจะไม่ปิดตัวลงทันทีหลังจาก Proof of Stake เปิดตัว เนื่องจากทีมนักพัฒนาอาจจะใช้พลังได้รับจากขุดไปสร้างบล็อกเชนที่แตกต่างกันขึ้นมาใหม่ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือมันจะเป็นการนำอัตรา Hash rate ไปเพิ่มให้กับเครือข่ายอื่น ๆ แทน

ซึ่งหากพวกเขายังคงต้องการเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Ethereum นักขุดอาจจะขายเครื่องขุดของพวกเขาเพื่อเก็บสะสม ETH ให้มากขึ้นและเข้ามามีส่วนร่วมใน Proof of Stake

จำนวนขั้นต่ำในการ Stake

สำหรับใครที่สนใจในการเข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมของ ETH 2.0 พวกเขาจะต้องมีการวางเงินขั้นต่ำอยู่ 32 Eth อ้างอิงจากคำพูดของนาย Collin Myers หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ ConsenSys 

นอกจากเราจะทราบแล้วว่าต้องวางเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่สำหรับ Ethereum 2.0 เรายังทราบด้วยว่า “อัตราดอกเบี้ย” ที่เราจะได้รับจากการ Stake ต่อปีนั่นอยู่ที่ระหว่าง 4.6% ถึง 10.3% ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในธนาคารในปัจจุบัน

สรุป

ต้องขอบคุณระบบ PoS ที่ทำให้ผู้เข้าร่วม ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาแพง ๆ รวมถึงไฟฟ้าจำนวนมหาศาลอีกต่อไป เนื่องจากตัวแปรที่จะทำให้พวกเขาได้รายได้มากขึ้นคือจำนวนเหรียญที่พวกเขามี และรวมถึงกลไกของระบบ

ดังนั้นความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนจาก PoW ไปเป็น PoS นั้นอาจจะสร้างข้อได้เปรียบเหล่านี้

  1. ประหยัดพลังงาน
  2. การโจมตีเจาะระบบอาจจะแพงขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากนักแฮกต้องการจะซื้อจำนวนเหรียญ 51% ของทั้งหมด ตลาดนั้นก็จะทำการขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ Casper จึงกลายเป็นระบบเก็บเงินฝากที่มีความปลอดภัยที่จะขึ้นอยู่กับระบบ consensus ซึ่งผู้ที่มีส่วนร่วมจะต้องจ่ายค่ามัดจำเสียก่อนเพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของ consensus อีกทั้ง Casper จะทำการกำหนดจำนวนรางวัลที่จะแจกจ่ายให้ผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างสมเหตุสมผลอีกด้วย

ที่มา : exodus.io