นักพัฒนาของ Ethereum กำลังพิจารณาข้อเสนอที่จะปรับปรุงค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมและช่วยแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย โดยข้อเสนอดังกล่าวมีชื่อว่า EIP-1559 ซึ่งได้มีการหารือกันมานับตั้งแต่เดือนเมษายน 2019 และมันมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของค่าธรรมเนียมใน Ethereum ไปโดยสิ้นเชิง
มันทำงานอย่างไร ?
โดยทั่วไปแล้วเครือข่าย Ethereum จะกำหนดค่าธรรมเนียมโดย “การประมูลราคาเริ่มแรก” ผู้ใช้ทุกคนจะต้องระบุค่า Gas ที่พวกเขาเต็มใจจ่าย และผู้ใช้ที่ชำระค่าธรรมเนียมสูงที่สุดมักได้รับการยันยืนธุรกรรมก่อน
อ้างอิงตามบันทึกในเอกสารของ EIP-1559 ที่ระบุว่า ระบบปัจจุบันนั่นจะทำ “ผู้ใช้เสียค่าใช้จ่ายไปโดยไม่จำเป็น” ในทางตรงกันข้าม EIP-1559 จะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าพวกเขาต้องใช้จ่ายค่าธรรมเนียมจริง ๆ เท่าไร จำนวนเงินนั้นจะถูกคำนวณและปรับโดยอัตโนมัติตามความต้องการเครือข่ายโดยรวม
ภายใต้ EIP-1559 ผู้ใช้จะต้องจ่าย “ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน” และค่าธรรมเนียมแบบพรีเมียม โดยการกำหนดค่าธรรมเนียมสูงสุดที่พวกเขาเต็มใจจ่าย สิ่งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการจ่าย “ทิป” ให้กับนักขุดบนเครือข่าย ซึ่งค่าธรรมเนียมพื้นฐานทั้งหมดจะถูก “เผาทิ้ง” และนักขุดจะเก็บไว้ได้เพียงแค่ทิปเท่านั้น ในที่สุดมาตรฐานใหม่นี้จะมีการชำระค่าธรรมเนียมในเหรียญ ETH ที่ไม่ใช่โทเค็น ERC-20 หรือ altcoins ที่อิงจากเครือข่ายของ Ethereum
มุมมองที่ใหญ่ขึ้น
หาก EIP-1559 ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้จะมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีขึ้นและพิสูจน์ว่า Ethereum สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ
นาย Eric Conner แห่ง Gnosis แนะนำว่า การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานใหม่นี้จะสามารถลดค่าธรรมเนียมได้ถึง 90% และเราควรพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อทำการอัพเกรดในอนาคต
นาย David Hoffman แห่ง RealT ให้เหตุผลว่าฟีเจอร์นี้เป็นส่วนสำคัญของนโยบายการเงินของ Ethereum “เปรียบได้กับประเทศที่เรียกร้องให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่นของพวกเขาเท่านั้นถึงจะสามารถซื้อสินค้าได้ถูกต้องตามกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม EIP-1559 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายมุมมอง เนื่องจากมันสามารถเปิดโอกาสในการจัดการค่าธรรมเนียมในเหล่านักขุดได้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสิ่งจูงใจของนักขุดหรืออาจเข้ากันไม่ได้กับเศรษฐศาสตร์และกฎของ Ethereum ในวงกว้าง
ปัญหาความแออัดของ Ethereum
การแก้ปัญหาความแออัดเป็นงานที่สำคัญของ Ethereum มานับตั้งแต่เดือนมีนาคม เครือข่าย Ethereum blockchain นั้นมีความแออัดมากเกินไป เนื่องจากโปรเจค NFT ที่มีปริมาณการใช้งานสูงเช่น Crypto Kitties และโปรเจคอื่น ๆ รวมถึงการใช้งานเหรียญ USDT ของ Tether และโปรเจค Ponzi , MMM ต่าง ๆ
EIP-1559 เป็นเพียงแค่หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของ Ethereum และช่วยในการปรับขนาดเครือข่ายตามความต้องการของผู้ใช้งาน โซลูชันที่สำคัญตัวอื่น ๆ ยังรวมถึง metatransactions , แหล่งเชื้อเพลิงสำรอง , การเปลี่ยนแปลงขนาดจำกัดของบล็อก และการเปลี่ยนแปลงค่า gas limits
Ethereum 2.0 จะนำเสนอการตรวจสอบ sharding และ proof-of-stake เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายของ Ethereum blockchain ให้ดียิ่งขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อเปิดใช้งาน EIP-1559 แล้ว มันจะสามารถแก้ปัญหาในสเกลที่ใหญ่กว่าได้หรือไม่ ? ซึ่งเราก็คงต้องติดตามรอดูกันต่อไป
ที่มา : cryptobriefing