มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในวงการคริปโต บ่อยครั้งที่มีคนถามว่า เราควรซื้อเหรียญคริปโตตัวไหนดี ? เราควรซื้อ Bitcoin ดีไหม ? และควรซื้อเท่าไหร่ ? จากนั้นพวกเขาก็จะถามต่อไปว่าราคา Bitcoin จะพุ่งไปถึงไหน ? คำถามที่ไม่มีที่สิ้นสุดและจะยังคงสนุกกับการคาดเดาเสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำถามที่พวกเขาควรจะถามมากที่สุดก็คือ ผมควรสร้างพอร์ตคริปโตทั้งหมดอย่างไร ?
การสร้างพอร์ตคริปโต
ก่อนอื่นเลยคุณต้องจะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่เสียก่อน และหากคุณยังไม่มีพื้นฐานในการลงทุนสามารถคลิกลิงก์เข้าไปศึกษาเกี่ยวกับ 10 เหรียญคริปโตที่น่าสนใจหลังจากการ Halving ของ Bitcoin แล้ว
การสร้างพอร์ตคริปโตนั่นจะคล้ายกับการสร้างพอร์ตหุ้นแบบดั้งเดิม เพราะคุณจะต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงที่สุดและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุดเหมือน ๆ กัน
ดังนั้นคุณจะต้องซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลบางชุดที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ตามมาด้วยสินทรัพย์บางอย่างเพิ่มเติม และจากนั้นคุณอาจเล่นเหรียญคริปโตที่มีเสี่ยงสูงกับคนอื่น ๆ และอาจได้รับผลตอบแทนที่มหาศาล ซึ่งจะคล้าย ๆ กับการสร้างพอร์ตหุ้นแบบดั้งเดิม
ในพื้นที่ดิจิทัล เราได้เห็นแล้วว่าโปรเจคในช่วงปีที่ผ่าน ๆ มา ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีศักยภาพล้มเหลวในการเข้ามาแทนที่โปรเจคพื้นฐานที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจึงจะมาพูดกันถึงเรื่องโปรเจคคริปโตตัวแรกที่คุณควรเพิ่มลงไปในพอร์ต
เริ่มต้นด้วยเหรียญยอดนิยม
หากคุณได้เริ่มศึกษาคริปโตเคอเรนมาบ้างแล้ว คุณจะรู้จักเหรียญคริปโตยอดนิยมสามตัวนี้เป็นอย่างดี ซึ่งพวกมันได้อยู่ในตลาดคริปโตมาอย่างยาวนาน :
แต่ละโปรเจคได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนและผ่านการทดสอบมาแล้วเป็นเวลาหลายปี
นี่เป็นโปรเจคคริปโตที่ดีที่สุดสามอันดับแรกในตลาด และสำหรับทุกคนที่กำลังจะสร้างพอร์ตคริปโตเป็นของตัวเอง ผมขอแนะนำให้คุณแบ่งเงินลงทุน 60% – 80% ของพอร์ตไปในสินทรัพย์ทั้งสามนี้เพียงอย่างเดียว
ดอกเบี้ยทบต้น
แม้คุณอาจพิจารณาว่าในปัจจุบัน Blockfi นำเสนอบัญชีที่น่าสนใจสำหรับ Ethereum และ Bitcoin ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถฝากเหรียญ ETH และ BTC ของคุณไว้ในบัญชีออมทรัพย์ของพวกเขาและได้รับดอกเบี้ยตอบแทนตลอดเวลาโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย ดังนั้นไม่เพียงแต่คุณจะได้ผลกำไรในมูลค่าของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นแล้ว แต่คุณยังจะได้รับเหรียญ Bitcoin และ Ethereum มากขึ้น ในทุกขณะอีกด้วย
ตอนนี้ Ripple หรือ XRP ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทั้งหมด แต่ปัญหาหลัก ๆ ของ Ripple ก็คือ บริษัทแม่ยังคงเทขายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องมูลค่าหลายร้อยล้านมูลค่าในตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดที่กำลังเติบโต
คุณสามารถเถียงและพูดได้ว่าการขุด ETH และ BTC นั้นก็ทำได้โดยทางเทคนิคเช่นกัน แต่มันมีวิธีที่แตกต่างกันเล็กน้อย การดำเนินการขุดกำลังสร้างความต้องการในด้านอื่น ๆ และอุตสาหกรรมทั้งหมดก็ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อทำให้ตลาดแข็งแกร่ง ในขณะที่การขายสินทรัพย์ที่ถูกขุดไว้ล่วงหน้าล้วนแต่เป็นอุปสรรคของนักลงทุน
Ripple กำลังเทขายเหรียญ XRP เพื่อนำไปใช้การพัฒนา แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอยู่ดีและคุณควรตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะเพิ่มสินทรัพย์คริปโตยอดนิยม 2 ในสามเข้าไปในพอร์ต
การแบ่งพอร์ตลงทุน
หากคุณอ่านมาจนถึงตอนนี้และตกลงที่จะเพิ่มสินทรัพย์สามอันดับแรกเท่านั้นเข้าไปในพอร์ต แล้วตัวอื่น ๆ ที่เหลือในตลาดล่ะ ? ผมขอแนะนำให้คนที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ เลือกลงทุนในสินทรัพย์ คริปโต 25 อันดับแรกเท่านั้น
ในอดีตที่ผ่าน ๆ มาเหรียญคริปโต 25 อันดับแรกอาจจะมีราคาที่ผันผวนอย่างมากและคาดเดาไม่ได้ ซึ่งเมื่อวอลุ่มตลาดโดยรวมลดลง โอกาสที่โปรเจคเหล่านี้จะ SCAM ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นคุณจึงควรมองหาเหรียญคริปโตที่เป็นที่รู้จักและมีการพัฒนามากที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก
เช่นเดียวกับในตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม คุณอาจต้องการตั้งเป้าหมายสำหรับโปรเจคที่มีกระแสเงินสดเป็นบวกและไม่มีหนี้ ด้วยการค้นหาข้อมูลบน Google ที่รวดเร็ว
ผมอาจลงทุน 30% – 40% ของพอร์ตในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จริง ๆ แล้วอัตราเปอร์เซ็นต์ควรน้อยกว่านี้มาก แต่คุณสามารถปรับลดมันได้ตามสไตล์ของคุณ
หากคุณต้องการลิสรายชื่อสินทรัพย์เพื่อเริ่มทำการค้นหา นี่คือโปรเจคคริปโตบางส่วนที่ผมสามารถยืนยันได้ว่า โปรเจคเหล่านี้มีเงินทุนจำนวนมากและมีศักยภาพที่ดีในการประสบความสำเร็จตามเส้นทางของพวกเขา :
ทำการค้นคว้าต่อไป
ผมมักจะกล่าวย้ำอยู่เสมอว่า คุณจะสามารถสร้างพอร์ทโฟลิโอคริปโตที่มีประสิทธิภาพได้จากสินทรัพย์คริปโตสามอันดับแรกและโปรเจคคริปโต 6 รายการข้างต้น
แต่อาจมีหลายคนในชุมชนคริปโตที่ออกมาโต้แย้งว่าการจัดสรรพอร์ตคริปโตแบบนี้ไม่ถูกต้องและพวกเขาอาจจะมีวิธีจัดสรรพอร์ตการลงทุนเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญคุณควรจำไว้เสมอก็คือ ‘อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว’ ผมมักจะเลือกสินทรัพย์คริปโตในการลงทุน 5 ตัวเสมอและ 2 จาก 5 จะมาจากสินทรัพย์คริปโตยอดนิยม 3 อันดับแรก
สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าหยุดทำการค้นคว้า แม้แต่หลังจากที่คุณสร้างพอร์ตไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม ผมได้มีการสับเปลี่ยนพอร์ตคริปโตของผมถึง 10 ครั้งในช่วงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีบางโปรเจคเติบโตขึ้นหรือตายลงไป มันเป็นกระบวนการที่ไม่มีสิ้นสุด การวิจัย , การลงทุน , การทดสอบ , การรอ , การวิจัย , การลงทุนใหม่ วนเวียนต่อไปเรื่อย ๆ
มันไม่มีสูตรสำเร็จในตลาดแห่งนี้ ไม่มีกฎตายตัว แต่มีความจริงอยู่ข้อหนึ่งก็คือ
คริปโตได้อยู่ที่นี่แล้ว และมีผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ออกไปโลดแล่นนอกตลาด เช่นเดียวกับในโลกแห่งความเป็นจริงที่จะมีการใช้สกุลเงินหลายสกุล , หลายโปรเจคและผู้ชนะอีกมากมาย
ที่มา : sanfranciscotribe