<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เว็ปเทรดคริปโตระดับโลก Kraken ทำนายว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มถึง 200% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็ปเทรดคริปโตรายใหญ่ในสหรัฐ ฯ Kraken ได้เปิดเผยรายงานที่ทำนายว่าราคาของ Bitcoin ( BTC ) จะเพิ่มขึ้นระหว่าง 50% ถึง 200% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ในรายงานเขียนหมายเหตุว่า ความผันผวนของ Bitcoin กำลังร่วงลงต่ำที่สุดในรอบ 21 เดือน และความผันผวนในวันที่ 24 กรกฏาคมเพียงอย่างเดียวคิดเป็นการร่วงลดลงถึง 23% รายงานระบุว่าความผันผวนของ BTC ได้ร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ (ระหว่าง 15% และ 30%) ซึ่งปกติแล้วมันมักจะตามมาด้วยราคาที่พุ่งขึ้นกว่า 140% โดยเฉลี่ย

โดยพื้นฐานแล้วเดือนสิงหาคมจะเป็นเดือนที่มีความผันผวนมากที่สุดเป็นอันดับสามสำหรับราคา Bitcoin และทาง Kraken คาดการณ์ว่าโมเมนตัมขาขึ้นของ Bitcoin ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน 

ราคา Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

Kraken กล่าวเน้นย้ำว่า การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ล่าสุด นั่นส่งผลให้เดือนกรกฎาคมกลายกลายอันดับสอง ที่ราคา BTC สามารถแตะจุดสูงที่สุดได้และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2011 อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตว่า โดยปกติแล้วเดือนกรกฎาคมมักจะเป็นเดือนที่ราคา Bitcoin ร่วงลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสาม แต่ปีนี้สมุมติฐานเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 14.5% ในช่วงระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคมถึง 31 กรกฎาคมทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นถึง 24% ส่งผลให้ตลาดมีโมเมนตัมแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากข้อมูลของ Kraken

ยิ่งไปกว่านั้น Kraken ยังเปิดเผยว่า 44% ของวอลุ่มการซื้อขายทั้งหมดของเว็ปเทรดในเดือนกรกฎาคมเกิดขึ้นในช่วง 7 วันสุดท้ายของเดือน

ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และ ทองคำ

รายงานยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของความสัมพันธ์ราย 30 วันของ Bitcoin และทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ระดับ 0.93 ในวันที่ 31 กรกฎาคมการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดขึ้น หลังจากที่ความสัมพันธ์รายเดือนร่วงลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ระดับ -0.66 ในวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ที่ว่าทองคำและ Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์ ‘safe-haven‘ ที่ได้รับความนิยมและเพิ่มสูงขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ที่มา : cointelegraph