<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO เหรียญ Cadano เผยกำลังหมกมุ่นอยู่กับ DeFi หรือเราจะได้เห็นโปรเจคจากเขา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Charles Hoskinson CEO ของ Cadano และ IOHK ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเงินรูปแบบกระจายอำนาจ ( Defi) ในระหว่างYouTube AMA ล่าสุดของเขาว่า :  

“ยกตัวอย่างเช่นเราได้ร่วมมือกับ Emrugo และกำลังดำเนินการเกี่ยวกับโลจิสติกส์ของเหรียญ stable coin ซึ่งเราจะสร้างมันขึ้นมาบน ergo ก่อนเพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง จากนั้นเราถึงจะดึงมันเข้าไปใน Cardano และนี่จะเป็นเหรียญ Stablecoin ในรูปแบบอัลกอริทึม เราคิดว่ามันน่าจะดีกว่า MakerDAO อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นหนึ่งใน DeFi หลาย ๆ โปรเจคที่มีอยู่ในปัจจุบัน”

นาย Hoskinson อ้างว่าเขา “มีส่วนร่วมโดยตรง” ในการพูดคุยเกี่ยวกับ Defi เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับแหล่งที่มาของทรัพยากรอย่างถูกต้องและมีทีมนักพัฒนาที่เหมาะสมอยู่เบื้องหลัง

มาก่อนใช่ว่าจะได้เปรียบเสมอไป

เมื่อพูดถึงวิธีที่ DeFi ใช้ฟื้นฟู Ethereum นาย Hoskinson ได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้เสนอโปรเจคเป็นคนแรกนั้นมักจะมีข้อเสียเปรียบเสมอ

“ผลกระทบของเครือข่ายเหล่านั้นมักจะเกิดขึ้นได้ไม่นานและมักจะเต็มไปด้วยความผิดพลาด ในความเป็นจริงคุณจะต้องการเป็นผู้เลียนแบบหรือผู้ริเริ่มแนวคิดคนที่สองหรือสามสำหรับโปรเจค DeFi และผมคิดว่านั่นจะมีโอกาสเคลื่อนไหวได้มากกว่าผู้เสนอโปรเจคเป็นคนแรกเสมอ”

ในขณะที่ ETH มากกว่า 5.1 ล้านเหรียญ หรือมูลค่าประมาณ 7.83 พันล้านดอลลาร์ถูกล็อคอยู่ในแพลตฟอร์มของ DeFi แต่ผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมคริปโตบางราย ก็ยังคงมีทัศนคติที่ไม่เห็นด้วยกับมัน

ก่อนหน้านี้นาย Changpeng Zhao CEO ของเว็ปเทรด Binance ได้ให้ความเห็นว่าโปรเจค DeFi จะมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ส่วนใหญ่จะประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับ Yam Finance

Wrapped Bitcoin

แนวโน้มที่น่าจับตามองมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งในพื้นที่ DeFi ก็คือ การปรากฏตัวของ Ethereum ในฐานะโซลูชันรูปแบบ “2 Layer” สำหรับ Bitcoin

Wrapped Bitcoin (wBTC) นั่นเป็นเหรียญ Bitcoin ในเวอร์ชั่น Erc20 ซึ่งในขณะนี้มีมูลค่าที่ถูกล็อคไว้เกือบถึง 400 ล้านดอลลาร์

article image

นาย Hoskinson เชื่อว่าเหรียญคริปโตประเภทดังกล่าวนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก :

“สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมอยากเห็นในอีก 12-24 เดือนข้างหน้า”

ที่มา : u.today