<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญเผยถึง 5 เหรียญ DeFi ที่ราคามีโอกาสพุ่งขึ้นถึง 100 เท่าหลังการย่อตัวของตลาดจบลง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ชื่อดังนาย Lark Davis กำลังเผยถึงเหรียญ DeFi ทั้งหมด 5 ตัวที่เขาเชื่อว่าจะมีศักยภาพในด้านราคาที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรุนแรงหลังจากที่การย่อตัวของตลาดนั้นจบลงแล้ว

สำหรับเหรียญแรกของนาย Davis นั่นก็คือเหรียญ Acropolis (AKRO) ซึ่งเป็นเหรียญที่ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ DeFi ที่ดูดีอย่างมาก

“project อย่าง Sparta ที่ให้คุณได้ทำการปล่อยกู้ และทำให้ผู้กู้สามารถใช้ตัวค้ำประกัน 50% ของการกู้นั้นถือเป็นอะไรที่เจ๋งมาก นอกจากนี้มันยังทำให้คุณสามารถสร้าง yield ผ่านระบบ integrated yield balancing เพื่อให้คุณได้รับ APR อย่างเต็มที่จะโปรโตคอลของ DeFi หลายๆตัว

ส่วนผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 นั้นก็คือ Delphi ตอนนี้เจ้า pool ตัวนี้กำลังช่วยคำนวณต้นทุนดอลลาร์แบบเฉลี่ยให้กับ bitcoin และ Ethereum และรวมถึงการทำ yield harvesting จากแพลตฟอร์มบนดีภายในแต่ละแพลตฟอร์มอีกด้วย”

ส่วนเหรียญตัวต่อไปมันก็คือ Meta หรือ Mstable (MTA) ที่นายเดวิดอธิบายว่ามันจะโฟกัสไปที่ตลาดของ Stablecoin เป็นหลัก

“Mstable นั้นถือเป็นโปรโตคอลที่ทำการรวบรวมเหรียญ Stablecoin เข้ามาไว้ด้วยกันและมันช่วยนำพามาซึ่งระบบ lending และรวมถึงการทำ swapping เข้ามาในระบบที่มีมาตรฐานอีกทั้งยังมีตัวเลือกด้านการเก็บสะสมเหรียญ Stablecoin และรวมถึงการเทรด, โดยไม่มีอัตราการ slippage ด้วย”

นาย Davis กล่าวว่า MTA นั้นมีศักยภาพที่ค่อนข้างสูงมากเนื่องจากว่าตลาด Stablecoin นั้นกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ส่วนเหรียญอันดับที่ 3 นั้นก็คือ Tellor (TRB) ซึ่งนาย Davis เชื่อว่ามันจะกลายมาเป็นผู้เล่นตัวใหญ่ในวงการ oracle ซึ่งจะทำการแข่งขันกับเหรียญอย่าง ChainLink และ Band Protocol แม้ว่า Tellor นั้นจะมีราคาที่ร่วงลงมาถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสัปดาห์แรกแต่นาย Davis ก็ทำการทำนายว่าเหรียญ TRB นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับราคาของเหรียญ Ethereum โดยคาดว่ามันจะมีราคาถึง 400 และ 500 ดอลลาร์ในอนาคตเลยทีเดียว

ส่วนอันดับที่ 4 นั่นก็คือเหรียญ bZx Protocol (BZRX) ซึ่งนายเดวิดกล่าวว่ามันคือปีศาจแห่ง DeFi เลยทีเดียว

“ผู้ที่ถือเหรียญ token ดังกล่าวสามารถสเต็กเรียนของพวกเขาและได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมและให้กู้ยืมและนอกจากนี้ยังสามารถเทรดเหรียญดังกล่าวบนแพลตฟอร์มอื่นๆที่มีส่วนร่วมกับ bZx Protocol ได้อีกด้วย”

แม้เขาจะกล่าวว่าราคาห้องเรียนดังกล่าวนั้นจะร่วงลงมาถึง 60 เปอร์เซ็นต์แต่นาย Davis ก็เชื่อว่ามันเป็นสินทรัพย์เหรียญ DeFi ที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงมากที่สุดและอาจจะมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนวันสุดท้ายสำหรับนายเดวิดนั้นก็คือเหรียญ Kava (KAVA) ซึ่งเขาเชื่อว่ามันมีศักยภาพในการเป็น MakerDAO ตัวต่อไปโดยเขากล่าวว่า Kava นั้นจะรองรับเหรียญ bitcoin ก่อนสิ้นปีนี้และมันอาจจะกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้ตลาดคริปโตกลายเป็นขาขึ้น

โดยเขากล่าวว่าตอนนี้มันถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสมในการซื้อเหรียญเขาว่าเนื่องจากว่าราคานั้นไม่ร่วงลงมาถึง 55 เปอร์เซ็นต์จากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยนักวิเคราะห์เชื่อว่ามูลค่าตลาดของ Kava นั้นจะพุ่งขึ้นจาก 84 ล้านดอลลาร์เป็นหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงขาขึ้นครั้งนี้

ในขณะเดียวกันนาย Davis ก็ได้เน้นย้ำว่าเขาถือเหรียญบางตัวแต่ก็ไม่ได้ถือครบทุกตัวตามที่เขากล่าวมาข้างต้นและยังเตือนนักลงทุนอีกด้วยว่าตลาดดังกล่าวและมีความเสี่ยงที่สูงมากและนักลงทุนควรที่จะลงทุนด้วยความระมัดระวังเนื่องจากว่าจะไม่มีใครมารับผิดชอบเงินที่คุณสูญเสียไปได้