<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัพเดต: ครอบครัวหนึ่งที่เคยขายบ้านและรถเพื่อซื้อ Bitcoin เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปี 2017 CNBC ได้พูดคุยกับครอบครัวชาวดัตช์ ซึ่งประกอบไปด้วย นาย Didi Taihuttu พร้อมกับภรรยาและลูก ๆ อีกสามคน หลังจากได้ทำการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินส่วนใหญ่ของพวกเขา ตั้งแต่ธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว บ้านขนาด 232 ตารางเมตร รวมไปถึงรองเท้าที่ใส่อยู่ให้เป็นเงินสดเพื่อนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในคริปโตที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนั้น

หลังจากเริ่มลงทุนมาได้ 3 ปีกว่า ทรัพย์สินแทบทั้งหมดของพวกเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการลงทุนในตลาดคริปโตที่มีค่าความผันผวนสูง ซึ่งแม้พวกเขายังไม่ได้ซื้อบ้านหลังเดิมคืน เพราะได้ผลกำไรจากการลงทุนที่มหาศาล และได้ออกท่องเที่ยวไปมาแล้วกว่า 40 ประเทศ โดยทุกวันนี้ยังคงออกเดินทางไปทั่วโลกพร้อม ๆ กับที่ได้ทำการเทรดไปด้วย

นาย Didi กล่าวว่า พวกเขาได้เข้ามาลงทุนใน Bitcoin เพราะต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาเอง ซึ่งหลังจากราคาดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงต้นปี 2018 เขาได้กล่าวเสริมว่า เขามีความเชื่ออย่างหนักแน่นมากว่าราคาจะดีดกลับขึ้นไปอีกครั้ง และตอนนี้ราคากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งเราอาจได้เห็นราคาพุ่งไปแตะสูงสุดถึง $100,000 ต่อ 1 BTC และคงจะไม่ประหลาดใจเช่นกันหากราคาพุ่งไปถึง $200,000 ต่อ 1 BTC ในปี 2022

CEO ของบริษัทลงทุน Galaxy Digital นาย Mike Novogratz คาดว่าราคา Bitcoin ที่กำลังจะกลับมาพุ่งสูงนั้นน่าจะยังไม่จบลง และมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงในเร็ววันนี้ ซึ่งเขาคาดว่ามูลค่าอาจสูงถึง $60,000 ต่อ 1 BTC ในปี 2021 

และหนึ่งในนักวิเคราะห์การลงทุนของ CitiFXTechnicals นาย Tom Fitxpatrick ได้รายงานว่า มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ว่าราคา Bitcoin อาจไปได้สูงถึง $318,000 ต่อ 1 BTC ภายในปี 2021 ซึ่งข้อมูลนี้ได้มากจากรายงานที่ส่งให้สถาบันการลงทุน Citibank ที่ทาง CNBC ได้ขอนำมาใช้อ้างอิง

สำหรับนาย Didi แล้ว เขามองว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ฟองสบู่อีกรอบอย่างแน่นอน และได้ให้ความเห็นว่า เขาไม่คิดว่า Demand จะลดลงในตอนนี้ แต่เรากำลังจะเข้าสู่ปัญหา Supply ที่มีจำกัดเสียมากกว่า 

การที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2020 ที่ผ่านมานี้ เมื่อนำไปเทียบกับปี 2017 แล้วจะพบว่าในตอนนี้นักลงทุนสถาบันกำลังมองหาแนวทางที่กำลังจะเข้ามาลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น ซึ่งนั่นจะช่วยลดปัญหาด้านความไม่น่าเชื่อถือของตลาดคริปโตลงไปได้ 

ผู้ก่อตั้งบริษัท Quantum Economics นาย Mati Greenspan ได้กล่าวว่า เมื่อตอนปี 2017 นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ขับเคลื่อนตลาดคริปโตเป็นนักลงทุนรายย่อยแทบเสียทั้งหมด ในขณะที่ตอนนี้กำลังมีการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันและบริษัทลงทุนจำนวนมาก

เศรษฐีพันล้าน นาย Stanley Druckenmiller และนาย Paul Tudor Jones นั้นต่างได้เข้ามาลงทุนในตลาด Bitcoin ทั้งคู่ อีกทั้งบริษัทเทคโนโลยีการเงินแนวหน้า Square และ Paypal ก็กำลังเตรียมตัวให้การรองรับคริปโตอยู่ด้วย

นอกจากนี้ผลสำรวจจาก Fidelity นักลงทุน 6 ใน 10 มองว่าการลงทุนในตลาดดิจิทัล กำลังจะมาแทนที่การลงทุนในพอร์ตแบบดั้งเดิม

อีกทั้งเมื่อหาก Paypal และผู้ให้บริการต่างเริ่มเปิดให้มีการซื้อสินค้าด้วยสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ก็จำเป็นต้องให้มีการระบายสกุลเงินคริปโตของผู้ขายสินค้าออกไปด้วย ประกอบกับที่มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาลงทุน ซึ่งอาจจะทำเกิดปัญหา Supply Crisis ตามมาดังที่นาย Didi ได้กล่าวไว้เป็นที่แน่นอน

ที่มา: CNBC