<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เตือนนักเทรด Bitcoin อาจมีการประมูลขายเหรียญที่ยึดได้จากตลาดมืดมาทุบราคาตลาด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Pierre Rochard ผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโตได้ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ยกเลิกการประมูลขาย Bitcoin มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยเสนอให้นำเก็บเหรียญทั้งหมดไว้ในกองทุนสำรองของ BTC แทน

Rochard ผู้ที่ทุกคนรู้จักกันดีในฐานะผู้สนับสนุน Bitcoin เขาต้องการให้สมาชิกสภานิติบัญญัติร่างแก้ไขกฎหมายตุลาการในปี 1789 ที่ได้อนุญาตให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ สามารถยึด Bitcoin ใด ๆ จากผู้กระทำผิด

ในบล็อกโพสต์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นาย Rochard ได้เรียกร้องให้เสนอร่างกฎหมายยกเลิกการประมูล Bitcoin จำนวนกว่า 69,370 BTC ที่ทาง IRS ยึดมาได้จากแฮ็กเกอร์ Silk Road เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่าสำนักงานอัยการสหรัฐฯ ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องคดีทางแพ่งเพื่อริบ BTC จากทางผู้กระทำผิดแล้ว 

Rochard ได้เน้นย้ำถึง “ความจำเป็นเร่งด่วน” ในการเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย โดยเขาคาดว่า US Marshals Service จะชนะคดีและเตรียมนำ Bitcoin ออกประมูล “ภายในหกเดือนข้างหน้า”

“เราจำเป็นต้องให้การเสนอร่างกฎหมายนี้ผ่านโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เราจะสามารถหยุดการประมูลนี้ได้ทันเวลา” เขากล่าว

ในโพสต์บล็อกของเขา Rochard เน้นย้ำว่าการประมูลที่ผ่านมามากกว่า 144,000 BTCในปี 2014 และ 2015 สร้างรายได้เพียงแค่ 122 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่หากมันถูกเก็บมาจนถึงปัจจุบันมูลค่าของสินทรัพย์จะมีมูลค่าสูงถึง 3.32 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

“การขายประมูลเหรียญ Bitcoin ที่ถูกยึดมานั้นในมุมมองของผมมันคือ ความผิดพลาด เมื่อมองย้อนกลับไป”

ในขณะที่ Bitcoin ที่ถูกยึดได้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นมีมูลค่าสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ในวันนี้ ดังนั้น Rochard จึงแนะนำว่าสหรัฐฯ ควรจะเก็บเกี่ยวมูลค่าที่เพิ่มขึ้นโดยการถือครอง Bitcoin ไว้ในระยะยาวโดยเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติยึด “เวลาในการตัดสินใจเกี่ยวกับประมูลขายสินทรัพย์ดังกล่าวนี้ออกไป”

“ธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถสร้างเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ไม่จำกัด แต่จำนวนเงินที่ได้รับจากการประมูล Bitcoin นั้นไม่สามารถสร้างขึ้นได้จากกลีบเมฆและมันมีจำนวนจำกัด ดังนั้นการเก็บ Bitcoin ไว้เป็นเงินสำรองอาจมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศของเรา”

นอกจากนี้เขายังกล่าวทิ้งทายไว้ด้วยว่า : 

“หากสหรัฐฯ ต้องการรักษาความเป็นผู้นำทั้งในด้านการเงิน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เราควรพัฒนากองทุนสำรอง Bitcoin ให้กับรัฐบาลกลาง”