หลังจากที่ราคาของ XRP ได้ดิ่งลงไปมาก ทาง Ripple ก็ได้ตื่นตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้คดี การฟ้องร้อง Ripple โดย ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อวงการคริปโตกันถ้วนหน้า และในตอนนี้ผู้คนต่างตั้งคำถามกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อ หรือถ้าจะให้เจาะจงกว่านั้น “ใคร” จะเป็นรายต่อไปที่จะถูกฟ้องร้อง
บ้างก็เดาว่ารายต่อไปน่าจะเป็น Link, Bitcoin หรือแม้กระทั่ง Ethereum แต่ถ้าหากเราพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เราก็จะพบว่าเหรียญ Tether นั้นเป็นเหรียญที่มีโอกาสที่จะถูกฟ้องร้องต่อไปมากกว่า
งานวิจัยเผยแพร่โดยนาย John M. Griffin รวมถึงบทความอื่นๆอีกหลายฉบับต่างได้พิสูจน์ว่า Tether/ USDT นั้นได้รับการขับเคลื่อนจากด้านการผลิต (Supply-Driven) และไม่ใช่ด้านความต้องการของตลาด (Demand-Driven) ซึ่งหมายความว่า Tether มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาของ bitcoin สูงขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นในปี 2017 แม้ว่าการฟ้องร้องโดยอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์ก (NYAG) จะยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมาสักระยะหนึ่งแล้ว
ทาง Tether ไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ชัดเจนว่าเงิน USDT ที่กำลังหมุนเวียนอยู่นั้นได้รับการค้ำจากสกุลเงินดอลลาร์ในธนาคาร
ยังมีอีกหลายประเด็นมากมายที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงเพราะมันไม่ใช่ประเด็นสำหรับบทความชิ้นนี้ แม้ว่าทางอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์ก (NYAG) กำลังที่จะหาข้อตกลงกับ Tether ผ่านการฟ้องร้อง ทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ มีโอกาสที่จะฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
เมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของ XRP ในช่วงที่ผ่านมา เราอาจเห็นการอพยพครั้งใหญ่ของผู้ใช้และเว็บเทรดออกจาก USDT ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน ทุกคนต่างอดคิดไม่ได้เลยว่าการอพยพครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นนั้นมีจุดหมายอยู่ที่แห่งใด
คำตอบง่ายๆ เลย นั่นก็คือเหรียญ USDC ของ Circle นั่นเอง
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
- Circle เป็น Stablecoin ที่ได้รับการกำกับดูแลควบคุมและเป็นมิตรกับรัฐบาลมากที่สุด ซึ่งมีมูลค่าตลาดที่สูงที่สุดรองจาก tether
- ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งและถูกรวมเข้ากับระบบบล็อกเชนหลายแห่ง
- เอกสารรับรองจากบริษัทด้านการตรวจสอบยักษ์ใหญ่ Grant Thornton LLP ที่ได้พิสูจน์ว่ามีเงินดอลลาร์ค้ำ USDC อยู่จริง
- ร่วมมือกับ VISA ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเงินดั้งเดิมที่จะใช้เงินสกุล USDC
- Circle มองหาวิธีการทางกฎหมายอยู่โดยตลอดเพื่อที่จะผลักดันให้สังคมโดยทั่วไปมีการปรับใช้ stablecoin มากยิ่งขึ้น
สรุป
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเลิกใช้ Tether แต่หาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ทำการฟ้องร้อง USDT ต่อไปและร่วมมือกับ NYAG ก็อาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อ Tether มากพอที่จะทำให้มีการอพยพครั้งใหญ่ของเว็บเทรดหลักในสหรัฐฯออกจาก USDT เกิดขึ้น
หลังจากนั้นจะเกิดการไหลออกอย่างช้าๆของพวกรายย่อยจาก USDT ไปยัง USDC และเหรียญ stablecoins อื่นๆ เหรียญ USDC ของ Circle ได้เติบโตถึง 520% ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2019 ถึง 2020 และมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นจาก 16% เป็น 18%
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยด้านบนเหล่านี้ USDC จะได้รับประโยชน์สูงสุดหาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ หรือหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ตัดสินใจที่จะดำเนินการฟ้องร้อง Tether