<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จำนวน Node ของ Bitcoin พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากข้อมูลของ Bitnodes.io จำนวน Node สำหรับใช้ยืนยันการทำธุรกรรม Bitcoin (Bitcoin Node) ได้ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยล่าสุดมีถึง 11,558 Node ที่กำลังทำงานอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยข้อมูลของ coin.dance ได้ระบุว่าจำนวน Node ที่เปิดทำงานอยู่นั้นมีอยู่ 11,613 Node ซึ่งจากข้อมูลทั้ง 2 บ่งชี้ว่าจำนวน Node เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีอยู่เพียง 11,250 Node 

นอกจากนี้ซอฟต์แวร์สำหรับการเปิด Node ที่มีชื่อว่า Bitcoin Core ได้รับการพัฒนาเป็นเวอร์ชัน 0.21.0 และเปิดให้ใช้งานทั่วไปในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าในปัจจุบัน Node ส่วนใหญ่จะยังใช้เวอร์ชัน 0.20.1 อยู่ แต่ก็ได้คาดการณ์ว่าจะมีการอัปเดตตามไปในอนาคต

ซึ่ง Bitcoin Core 0.21.0 นั้นจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ระบบ testnets ที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบ Taproot ได้อีกด้วย ซึ่งระบบนี้จะสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับธุรกรรม Bitcoin ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้รูปแบบการใช้จ่าย (Spending Condition) ไม่แสดงอยู่ใน output แล้ว ซึ่งจะทำให้ Bitcoin นั้นเป็นทรัพย์สินที่มีความเป็นส่วนตัวสูงตามที่ผู้คิดค้น Bitcoin นาย Satoshi Nakamoto คาดหวังไว้ตั้งแต่ต้น

นอกจากนี้ Node กว่า 25% ยังทำงานอยู่บนเครือข่ายที่ไม่เปิดเผยตัวตนที่มีชื่อว่า Tor โดยเวอร์ชันล่าสุดของ Bitcoin Core ได้ทำการพัฒนาให้รองรับ Tor เวอร์ชัน 3 ที่พัฒนามาแทนที่เวอร์ชันก่อนหน้าที่เริ่มล้าสมัย โดยเครือข่าย Tor จะเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมโดย ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถมองเห็น IP Address ทั้งหมดระหว่างการทำธุรกรรมได้

นาย Satoshi ได้เคยกล่าวไว้ว่า Bitcoin นั้นจำเป็นที่จะต้องมี Node ที่ปฏิบัติการโดยตัวของมันเองเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะสามารถคงความไม่รวมศูนย์ (Decentralized) ไว้ได้ ซึ่งเป็นมูลค่าหลักของ Bitcoin อีกทั้งการเปิด Node ยังเป็นช่องทางที่จะสามารถเก็บ Bitcoin ไว้ที่ตนเองได้ด้วย หลังจากที่ผู้ถือ Bitcoin เริ่มระวังผู้ให้บริการเก็บเหรียญ หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลกันมากขึ้น

การเพิ่มขึ้นของ Bitcoin Node ยังสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของ Lightning Network Node ที่ใช้ในการโอนรับเหรียญอีกด้วย ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าปัจจุบันจำนวนผู้ที่ให้ความสนใจใน Bitcoin กำลังมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Cointelegraph