<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาจับมือ Ripple เตรียมพัฒนาระบบส่งเงินข้ามประเทศแบบ Real-time

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

QNB Group หรือ Qatar National Bank ได้ประกาศเข้าร่วมเครือข่าย RippleNet อย่างเป็นทากงาร โดยการร่วมมือกันนี้จะมุ่งเน้นไปที่การโอนเงินข้ามประเทศ ด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมราคาถูกและรวดเร็วระดับ Real-time ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Ripple 

Ripple ลงนามในข้อตกลงร่วมกับ QNB Group

Ripple ได้ลงนามในความร่วมมือใหม่ภายใต้เงื่อนไขที่จะอนุญาตให้ทาง QNB สามารถนำเทคโนโลยีของ RippleNet มาใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ โดย Ripple เคลมว่า โซลูชันนี้เป็นการโอนข้ามพรมแดนในแบบ Real-time 

ในขั้นต้นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ตั้งใจที่จะทดลองใช้โซลูชั่นของ RippleNet ซึ่งเป็นเครือข่ายการชำระเงิน DLT ของ Ripple ที่เชื่อมต่ออยู่กับธนาคาร QNB Finansbank ในตุรกี ส่วนในระยะที่สอง ธนาคารตั้งใจจะขยายแพลตฟอร์มด้านบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนด้วย RippleNet ไปให้กับลูกค้าของธนาคารในหลายประเทศ โดยคาดว่าปัจจุบัน QNB มีการดำเนินงานอย่างน้อย 31 ประเทศทั่วโลกผ่านบริษัทในเครือ

นาย Heba Al Tamimi ผู้จัดการทั่วไปของ QNB กล่าวว่าวัตถุประสงค์หลักของสถาบันคือ การนำเสนอนวัตกรรมชั้นยอดให้กับลูกค้าและการร่วมมือกับ Ripple ในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการทำให้การโอนเงินข้ามพรมแดนกลายเป็นนวัตกรรมที่เรียบง่ายสำหรับลูกค้า 

ด้วยข้อตกลงนี้ สมาชิกทั้ง 300 รายของ RippleNet จะสามารถเข้าถึงตลาดแอฟริกาและตะวันออกกลางได้อย่างราบรื่น

ในขณะเดียวกันนาย Navin Gupta กรรมการผู้จัดการใน South Asia ของ Ripple ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนกันในครั้งนี้ว่า :

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับทาง Qatar National Bank (QNB) ที่ช่วยนำเสนอนวัตกรรมด้านการธนาคารและ Fintech มารวมกันเพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านการชำระเงินข้ามพรมแดน และในท้ายที่สุดก็จะขยายบริการโอนเงินของ QNB บนเครือข่าย RippleNet ไปสู่ตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม”

การเป็นหุ้นส่วนกันในครั้งนี้เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความต้องการของ Ripple ในการขยายบริการด้านการชำระเงินไปยังทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกา