<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เผยกลโกงคริปโตที่นักต้มตุ๋นมักใช้ในการหลอกเหยื่อ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางความร้อนแรงของราคาคริปโตเคอเรนซี่ สิ่งที่มาแรงไม่แพ้กัน นั่นก็คือ การหลอกลวงคริปโทเคอร์เรนซี เช่น การชักชวนให้ซื้อขายคริปโตผ่านแพลตฟอร์มที่อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงเป็นเท่าตัวในเวลารวดเร็ว หรือหลอกลวงว่าเป็นการระดมเงินเพื่อนำไปสร้างคริปโทที่มาขายกาวว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเหรียญคริปโตอันดับต้น ๆ ของโลก แต่สุดท้ายคนชวนกลับหายเข้ากลีบเมฆ จนทำให้ผู้ที่หลงเชื่อต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า

กลโกงเหล่านี้เปรียบเหมือน เหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะวิธีการที่มิจฉาชีพนำมาใช้ไม่ได้มีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แต่เรื่องราวที่เปลี่ยนไปตามกระแสความสนใจในโลกของคริปโตเท่านั้น 

ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายมากขึ้น และทำได้ในหลากรูปแบบหลายช่องทางมากขึ้น โดยกลโกงที่นักต้มตุ๋นมักใช้อยู่บ่อยครั้งในปีนี้จะมีอยู่ 4 วิธีด้วยกันคือ

  1. กลโกงบนสื่อโซเชียลมีเดีย
  2. กลโกงที่เกี่ยวข้องกับ NFT
  3. กลโกงที่มาในรูปแบบมัลแวร์และไวรัส
  4. DeFi Rug Pull

กลโกง NFT บนสื่อโซเซียลมีเดีย

ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักต้มตุ๋นได้มีการแอบอ้างปลอมเป็นบัญชีทวีตเตอร์ของเหล่าบุคคลดัง หรือแม้แฮ็คบัญชีเฟสบุ๊คที่ได้รับการยืนยัน เพื่อเปลี่ยนชื่อและปลอมรูปโปรไฟล์เป็นบุคคลนั้น ๆ 

ด้วยวิธีนี้เองที่ทำให้ เหล่านักต้มตุ๋นได้รับความไว้วางใจและความเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะโปรโมทโพสต์เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้ติดกับ โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะแจกเหรียญคริปโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สำหรับนักลงทุนโอนเหรียญคริปโตไปให้กับพวกเขาก่อน

อย่างไรก็ตามกลโกงประเภทนี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการอยู่ให้ห่างจากโฆษณาที่แจกเหรียญคริปโตฟรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลโกงที่มีเงื่อนไขให้นักลงทุนโอนเหรียญคริปโตไปให้ก่อน

กลโกงที่เกี่ยวข้องกับ NFT

กลโกงประเภทนี้มักจะมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มนักลงทุน NFT ยกตัวอย่างเช่นคุณสามารถซื้อ NFT ApeGang หมายเลข 4510 ได้ที่ 10 ETH ในราคาปัจจุบัน แต่ร้านปลอมสามารถเสนอราคา 2 ETH ให้กับคุณได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันตัวเอง คุณควรอยู่ให้ห่างจากผู้ที่เสนอราคา NFT ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ โดยให้ใช้แนวคิดที่ว่า ‘ถ้ามันดีเกินกว่าจะเป็นจริง มันก็อาจจะไม่จริง’

กลโกงที่มาในรูปแบบมัลแวร์และไวรัส

ในปีนี้ มีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับเหรียญคริปโตมาแบบฟรี ๆ ในกระเป๋าเงิน Wallet  ของพวกเขา โดยแฮกเกอร์มักใช้กลโกงประเภทนี้เพื่อดึงดูดให้เหยื่อเข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญฟรีในกระเป๋าเงินของพวกเขา หรือแม้แต่การหาวิธีที่จะขายเหรียญเหล่านั้น และในที่สุดพวกเขาก็ไปพบว่าเว็บไซต์เข้าไปค้นหาข้อมูลของเหรียญถูกแฮกเกอร์วางมัลแวร์หรือตั้งค่าสัญญา Smart Contact เป็นกับดักเอาไว้แล้ว และมันจะเป็นการเปิดประตูให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของพวกเขาได้ในที่สุด

สำหรับวิธีหลีกเลี่ยงกลโกงประเภทนี้ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณไม่ต้องไปสนใจหรือทำอะไรกับเหรียญที่ถูกโอนเข้ามายังกระเป๋าของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงของกลโกงประเภทนี้แล้ว

DeFi Rug Pull

แน่นอนว่า  DeFi Rug Pull นั้นเป็นคนกลโกงที่นักต้มตุ๋นต้องมีความเชี่ยวชาญมาระดับหนึ่ง และมาในคราบของนักพัฒนา DeFi แพลตฟอร์มที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีผู้คนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อของแพลตฟอร์ม DeFi เหล่านี้ 

ปกติแล้วแพลตฟอร์มเหล่านี้มักอ้างว่า พวกเขาจะมอบให้ผลตอบให้กับคุณเป็นตัวเลขที่สูงเกินกว่าจริง และเมื่อคุณมีการฝากเงินหรือทำการ Staking บนแพลตฟอร์มเหล่านี้แล้ว มันอาจทำให้เงินของคุณนั้นไม่สามารถถูกถอนออกมาได้อีกเลย หรือเลวร้ายยิ่งกว่านั้นบางแพลตฟอร์มอาจมีการเขียนสัญญา Smart contract ที่ไม่ดีเอาไว้ เพื่อขออนุญาตในการเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณ และในที่สุดคุณก็จะพบว่าเหรียญคริปโตของคุณถูกขโมยออกไปจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่เหรียญเดียว 

อย่างไรก็ตามคุณสามารถหลีกเลี่ยงกลโกงประเภทนี้ได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้แพลตฟอร์ม Defi ที่เสนอให้ผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริง