<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Intel เปิดตัวชิป ‘Bonanza Mine’ ซึ่งตอบโจทย์สายขุด Crypto โดยเฉพาะ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัท Intel ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติเตรียมเปิดตัว processor “Bonanza Mine” ที่งาน International Solid-State Circuits Conference (ISSCC) ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 20 กุมภาพันธ์

การนำเสนอของ Intel ถูกจัดให้อยู่ในหมวด “Highlighted Chip Releases” ซึ่งจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับชิปตัวใหม่ซึ่งได้รับการอธิบายว่าเป็น “ ASIC สำหรับการขุด Bitcoin จะใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ”

โดยที่ ASIC นั้นหมายถึงวงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชันซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการขุดเหรียญ crypto

Intel ก้าวเข้าสู่โลกคริปโต

การเข้าสู่โลกคริปโตของ Intel ในการขุดคริปโตนั้นหมายความว่าในไม่ช้าทางบริษัทสามารถแข่งขันกับ Bitmain ได้ทางโฆษกของ Intel กล่าวกับร้านข่าวเทคโนโลยี Tom’s Hardware ว่า

“Intel ได้ทำงานออกแบบเกี่ยวกับ ASIC ที่ปรับให้เหมาะสม SHA-256 มาหลายปีแล้วโดยเริ่มจากงานค้นหาแนวทางที่ทำให้งานสำเร็จใน Intel Labs โดยเราจะเผยรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมในอนาคต”

เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Raja Koduri หัวหน้าหน่วยประมวลผลกราฟิกกล่าวว่าบริษัทกำลังทำงานเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีการขุดคริปโตแบบเฉพาะทาง Raja ยืนยันว่าชิปตัวใหม่นี้จะแยกจากโปรเซสเซอร์กราฟิก ( GPU) โดยสิ้นเชิง ซึ่ง “จะทำกราฟิก, การเล่นเกม และสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้ทั้งหมด”

บริษัทอยู่บนเส้นทางสำหรับการพัฒนาprocessor รุ่นเฉพาะสำหรับการขุดตัวใหม่มานานแล้วในปี 2018 Intel ได้จดสิทธิบัตรระบบการประมวลผลพิเศษที่เอาไว้ใช้สำหรับคริปโตอย่างตัว SHA-256 โดยปรับให้เหมาะสมสำหรับการขุด Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพสูง Tom’s รายงาน

บรรดาเกมเมอร์ต่างพากันหัวเสียกับนักขุดคริปโตเนื่องจากการขาดแคลนการ์ดจอทั่วโลกซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลให้ราคาการ์ดพุ่งสูงขึ้นตลาดการ์ดจอมือสองได้เกิดขึ้นในหลายประเทศโดยที่ราคาของการ์ดจออายุตั้งแต่ 3 ปีนั้นสูงกว่าที่เคยมรมา

Intel เผยสัดส่วนการถือหุ้นใน Coinbase กว่า $780,000 เมื่อปีที่แล้วและจะมีการเปิดตัวการ์ดจอเกมรุ่นแรกที่มีชื่อเรียกว่า Intel Arc Alchemist ในปีนี้เนื่องจากมีการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD ในตลาดที่เกมเมอร์นั้นมีความต้องการในสินค้ากันอย่างมาก

ระบบนิเวศการขุด Bitcoin เป็นอย่างไร?

หลังจากที่จีนได้ทำการปราบปรามการขุด Bitcoin ไปแล้วก็ถือว่าเป็นความโชคดีของทางสหรัฐอเมริกาที่ได้เพิ่มปริมาณการขุดหลังจากที่มีการอพยพเข้ามาของชาวจีน hashrate ในการขุดก็ฟื้นตัวกลับมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 207.2 EH/s (exahashes ต่อวินาที) ในวันที่ 15 มกราคม

จากข้อมูลของมหาวิทยาลัย Cambridge (ซึ่งเป็นข้อมูลในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว) สหรัฐอเมริกาถือเป็นเจ้าแห่งการขุด Bitcoin โดยที่มีการใช้พลังหมุนเวียนเป็นส่วนใหญ่และมีเปอร์เซนต์การขุดที่ 35.4% ส่วนทางจีนนั้นก็เหมือนจะหายออกจากวงโคจรการขุดไปแล้ว