<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

JTS โหวตผ่านในที่ประชุมฉลุย อนุมัติซื้อเครื่องขุด Bitcoin จำนวน 6,300 เครื่อง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ได้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 โดยพวกเขาได้เผยว่ามีการอนุมัติเพื่อให้ซื้อเครื่องขุด Bitcoin เพิ่มอีกกว่า 6,000 เครื่อง

โดยอ้างอิงจาก PR ของทาง JTS นั้น พวกเขาได้ทำการจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ โดยมีระเบียบวาระการประชุมให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบและพิจารณาอนุมัติรายการที่สำคัญ โดยได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นให้บริษัทและ/หรือบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จํากัด (“JasTel”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ตามที่บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมสําหรับปี 2565

โดยในวาระที่ 2.1 อนุมัติจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวนไม่เกิน 1,800 เครื่อง มีผู้ถือหุ้นลงคะแนนเห็นด้วยคิดเป็นร้อยละ 99.95 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และวาระที่ 2.2 อนุมัติจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวนไม่เกิน 4,500 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มีผู้ถือหุ้นลงคะแนนเห็นด้วยคิดเป็นร้อยละ 99.97 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

รวมจำนวนเครื่องขุดบิทคอยน์ทั้งสิ้น 6,300 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 3,300 ล้านบาท และวาระที่ 3.1 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ มีผู้ถือหุ้นลงคะแนนเห็นด้วยคิดเป็นร้อยละ 99.97 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ณ จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนลทาวเวอร์

ธุรกิจที่ยังคงมีความเสี่ยง

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าทาง ก.ล.ต. ไทยได้มีการออกมาแนะผู้ถือหุ้น JTS ใช้สิทธิออกเสียงในวาระประชุมเพิ่มลงทุนเหมืองขุด Bitcoin โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ถือหุ้นจึงไม่ควรอนุมัติการลงทุนในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เล็งเห็นว่า ถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์จะมีตัวแปรที่ JTS หรือ JASTEL ไม่อาจควบคุมได้ และมีนัยสำคัญต่อกระแสเงินสดประกอบด้วย มูลค่าของ Bitcoin ในอนาคต อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลดอลลาร์ต่อบาทไทย จำนวนกำลังขุดรวมบนเครือข่าย (Total Network Hash Rate) รวมถึงอัตราค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม (Transaction Fee) ของ Bitcoin ที่ผู้ขุดจะได้รับ

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของค่า Difficult กฎระเบียบ หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็มีผลต่อการขุด Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ประกอบกับเหรียญบิทคอยน์เองนั้น ไม่มีมูลค่าพื้นฐาน (Fundamental Value) ที่ชัดเจน ราคาของเหรียญ Bitcoin ในปัจจุบันจึงเป็นราคาตลาดที่มีสมมติฐานจากความเป็นไปได้ของมูลค่า จากประโยชน์ที่อาจมี หรืออาจไม่มีของ Bitcoin ในอนาคต (Future Value of Utility of Bitcoin)