<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตำรวจเมือง Manchester สามารถไล่ตามเหรียญ Crypto ที่เหยื่อถูกฉ้อโกงไปมูลค่ากว่า 840 ล้านบาทกลับมาได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงกว่า 18 เดือนที่ผ่านมาตำรวจเมือง Manchester ซึ่งเป็นถื่นของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้นำเงินคริปโตคืนแก่เหยื่อที่ถูกต้มตุ๋นกว่า 25 ล้านดอลลาร์ได้ในรายงานก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ตบเท้าเข้ามาและขอเงินคืนได้พวกเขาต้องทำการยืนยันก่อนว่าเป็นของพวกเขาจริงจึงจะได้รับคืน

อย่างไรก็ตามตัวเลขของเงินที่เหยื่อนั้นถูกหลอกไปอยู่ที่ $230,000 ต่อเหยื่อ 1 รายตำร้องขอในการขอคริปโตคืนกำลังอยู่ในการดำเนินการยื่นอุทธรณ์สำหรับผู้ที่เป็นเหยื่อก็มีเข้ามาเรื่อย

รายงานล่าสุดโดย MP ระบุว่ามีการดำเนินการทางกฎหมายกับนักต้มตู๋นเหล่านี้ที่ไม่เพียงพอนี่ถือเป็นเรื่องที่ของบล็อกเชนเนื่องจากมันแสดงให้เห็นถึงบัญชีแยกประเภทแบบ decentralized ซึ่งการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนนั้นสามารถตรวจสอบได้และเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนดังนั้นนักต้มตุ๋นก็ถูกแกะรอยจากประวัตการทำธุรกรรม

นี่คือสิ่งที่ธนาคารแบบดั้งเดิมและเงินสดนั้นไม่สามารถทำได้การต้มตุ๋นในการเงินรูปแบบดั้งเดิมก็ยังมีให้เห็นมากกว่าในโลก crypto

MP เรียกร้องให้มี “หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเดี่ยวที่รับผิดชอบในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจพร้อมกับหน่วยงานรัฐบาลหนึ่งหน่วยงานที่ดูแลนโยบายนี้” เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่รัฐสภากำลังเรียกร้องให้มีกองกำลังต่อสู้กับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหลังจากการต้มตุ๋นเป็นคริปโตกวาดเงินไปได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 ในขณะที่อีกกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกกวาดไปจากจากการฉ้อโกงและการต้มตุ๋นแบบเดิมๆ

การดำเนินการนี้ไม่นับรวมเงินที่อาจถือได้ว่า ‘ถูกขโมย’ แบบสาธารณะจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมผ่านการดำเนินการของธนาคารที่ขาดความรับผิดชอบ

ตำรวจเมือง Manchester นั้นสามารถกู้เงินคืนมาได้ 20 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และอีกมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ในปีนี้และน่าประหลาดใจอย่างยิ่งว่าเหตุผลที่ตำรวจสามารถนำคืนกับมาได้นั้นเพราะนักต้มตุ๋นไม่สามารถเก็บรักษา private key ของ wallet ที่มีคริปโตอยุ๋ได้

ตำรวจนั้นพบทั้ง wallet และ key ซึ่งนั้นก็หมายความว่าตำรวจสามารถนำของกลางคืนแก่เจ้าของที่แสดงหลักฐานได้อย่างถูกต้องว่าถูกต้มตุ๋นซึ่งนักต้มตุ๋นเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากการขาดความรู้ของเหยื่อในการลงมือขโมยเงินของพวกเขาเป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างยิ่งที่เราได้เห็นว่าแม้แต่นักต้มตุ๋นก็ถูกยึดคริปโตได้เนื่องจากการขาดการเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างปลอดภัย