โดยสรุปสั้นๆว่า Willy Woo ใช้เครื่องมือ Supply Shock กับราคาในอดีตของ BTC และใน 3 ใน 5 กรณีของตัวบ่งชี้ ทำให้เห็นว่านี่เป็นจุดต่ำสุดของราคา Bitcoin อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็ยังมีหลายคนยืนยันถึงตลาดหมีที่กำลังจะมา
Willy Woo เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการวิเคราะห์แบบ on-chain และสร้างตัวบ่งชี้ Bitcoin ตามข้อมูลโดยตรงจาก blockchain โดยใน Twitter ล่าสุดของเขา กล่าวว่า “เหรียญสีส้มดูด้อยค่าไปหน่อย” ขณะที่กำลังวิเคราะห์ด้วยเครื่องทือ Supply shock ของ BTC
อันที่จริง Willy Woo เขียนความคิดเห็นบนแผนภูมิของเขาในเชิงเยาะเย้ย เนื่องจากดูเหมือนว่าตัวบ่งชี้ที่เขาพูดถึงนั้นมีการขายมากเกินไป ในแผนภูมิ นักวิเคราะห์ได้นำเสนอ High Liquid Supply Shock Oscillator และ เปรียบเทียบกับของราคา BTC ในอดีต เราจะเห็นว่าตัวบ่งชี้นี้บอกว่าราคาตอนนี้อยู่ที่ระดับ All-Time Low (ATL)
นอกจากนี้ นาย Willy Woo ยังเขียนว่า “ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับนักลงทุนที่จะรอกฎแห่งการพลิกกลับค่าเฉลี่ย” เขากำลังอ้างถึงทฤษฎีในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่แสดงให้เห็นว่าความผันผวนของราคาสินทรัพย์ และผลตอบแทนในการลงทุนในอดีตจะเห็นผลในการลงทุนระยะยาว
ในกรณีของการใช้เครื่องมือ Oscillator ได้บ่งบอกถึง กราฟที่จะเด้งขึ้นในที่สุด และสิ่งนี้จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอุปทานที่มีสภาพคล่องสูงขึ้น แล้วอะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างความเปลี่ยนแปลงนี้กับราคาในอดีตของ BTC ?
สภาพคล่องที่ต่ำลง ของ อุปทานที่มีสภาพคล่องสูง กับ ราคาของ BTC
สิ่งที่สำคัญที่สุดจากการดูเครื่องมือ Oscillator จะเห็นว่า Supply Shock อยู่ในระดับที่มีระดับการขายมากเกินไป โดยแผนภูมิข้างล่าง เมื่อเทียบกับกราฟที่ซ้อนอยู่ข้างล่างแล้วจะเห็นว่า กำลังถึงจุดต่ำสุดของกราฟสีแดง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงราคาของ BTC
เราจะเห็นว่า 3 ใน 5 กรณีนั้น จุดต่ำสุดของเครื่องมือ Supply Shock Oscillator จะเห็นว่า ในกรณี 1 3 และ 4 เมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้ว กราฟจะเด้งขึ้น และราคาของ Bitcoin จะไม่กลับมาต่ำกว่าราคาในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม 2 ใน 5 กรณี ของจุดจ่ำสุดของเครื่องมือ Oscillator ไม่ได้ทำให้จุดนี้เป็นจุดต่ำสุดของราคา Bitcoin สิ่งที่เกิดขึ้นใน กรณี ที่ 2 และ 5 คือ เมื่อถึงจุดต่ำสุดของเครื่องมือแล้ว ราคากลับลงต่ำกว่าเดิม (เส้นสีส้ม) แต่ที่น่าสนใจคือ ราคา BTC ณ จุดที่เป็นจุดต่ำสุดของเครื่องมือ Oscillator เส้นถัดไป จะยกสูงขึ้น
ความสัมพันธ์ของแนวโน้ม
อีกวิธีหนึ่งในการดูความสัมพันธ์ระหว่างแผนภูมิทั้งสอง ที่ นาย Willy Woo เผยแพร่คือ การวิเคราะห์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ตามสมมุติฐาน เราสามารถสรุปได้ว่า หากจุดต่ำสุดของเครื่อง Oscillator สอดคล้องกับจุดต่ำสุดของราคา Bitcoin เมื่อถึงราคานั้น คาดว่าจะเริ่มมีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นในทั้งสองแผนภูมิ
อันที่จริง การวิเคราะห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัวอย่างมากมายของความสัมพันธ์เชิงบวกดังกล่าว ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับแนวโน้มขาขึ้นแบบ Dynamic ที่ตามมาด้วยการระยะสะสมที่เป็นระยะเวลานาน สองกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในตลาดกระทิงในปี 2012-2013 เกิดขึ้นสองครั้งในปี 2012-2013 และเกิดขึ้นอีกสองครั้งในปี 2020-2021 (พื้นที่สีเขียว)
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง การเพิ่มขึ้นของ Supply Shock Oscillator ในอุปทานที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ได้ทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น เราเห็นกรณีดังกล่าวสามกรณี เกิดขึ้นสองครั้งในช่วงตลาดหมีปี 2014-2015 และเกิดขึ้นอีกหนึ่งกรณีในช่วงตลาดหมีปี 2018 ในขณะนั้นราคา Bitcoin ลดลงหรืออยู่ในช่วงขาลง และนี่คือการยืนยันของตลาดหมีในระยะยาว
บทสรุป
วันนี้ เครื่องมือ Supply Shock ที่ถูกคิดค้นโดย นาย Willy Woo บ่งบอกว่าตอนนี้ราคา BTC อยู่ที่ ATL นี่อาจเป็นสัญญาณตลาดกระทิงสำหรับราคา Bitcoin อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับการยืนยันการวิเคราะห์ของเครื่องมือนี้ ตามความคิดเห็นของ Willy Woo ก่อนอื่นต้องกราฟกลับไปหาเส้นค่าเฉลี่ยก่อน
นอกจากนี้ Bitcoin จะต้องกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น หากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น การเพิ่มขึ้นของเครื่องมือ Supply Shock oscillator ของอุปทานที่มีสภาพคล่องสูง อาจนำไปสู่ การลดลง หรือการsideway ของราคา BTC