แนวคิดของ metaverse นั้นมีมาตั้งแต่ช่วงปี 1980 แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เราได้เห็นโปรเจ็กต์ที่ผุดขึ้นมานับร้อยสิ่งที่เราได้เห็นมากยิ่งขึ้นในตอนนี้คือโลกของเกมที่มีความสามารถในการบูรณาการและผนวกรวมเข้ากับภาคส่วนต่าง ๆ
ตอนนี้ metaverse นั้นเป็นเหมือนกับที่ว่างสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบและสร้างแนวคิดริเริ่มต่าง ๆ เมื่อเราลองพิจารณาถึงอนาคตในการเข้าไปมีส่วนร่วมในพื้นที่ metaverse และการเชื่อมต่อกันระหว่างโลกจริงและและเสมือนเราจำเป็นต้องผลักดันขอบเขตและก้าวข้ามสิ่งที่ถูกมองว่าเป็น metaverse ในตอนนี้โดยเริ่มต้นจากบรรดาผู้นำที่เริ่มสร้างอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคตซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีประสิทธิภาพในเชิงพาณิชย์, การมีส่วนร่วมและความบันเทิง
เพื่อให้ Metaverse นั้นประสบความสำเร็จและกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กันปกติในชีวิตประจำวันของผู้คนมันจะต้องให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับมันในฐานะที่เป็นแนวคิดแบบ sci-fi หรือในโลกของเกม metaverse นั้นฟังดูยอดเยี่ยมแต่สำหรับการที่มันที่จะเติบโตไปเป็นเครื่องมือทางสังคมและธุรกิจ
เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีอรรถประโยชน์ให้ใช้สอยหรือมีสิ่งจูงใจที่ทำให้ผู้ใช้งานนั้นเข้ามาลงทุนเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย web3 มีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันแนวคิดของ metaverse ด้วยเทคโนโลยี บล็อกเชน, NFT, Extended Reality (XR), ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอื่น ๆ อีกมากมาย
metaverse ที่มีฟังก์ชันการทำงานตามความต้องการของผู้ใช้, ใช้พูดคุยกับลูกค้าและอุตสาหกรรมที่พวกเขาเลือกและสร้างลู่ทางใหม่ของการมีส่วนร่วมจะเป็นการนำผู้ใช้ไปพบกับคุณค่าสูงสุดในข้อเสนอที่เรียกว่า Metaverse-as-a-service (MaaS) มันจะทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเมืองของพวกเขาได้ตามใจชอบและจะทำให้มันเป็นรากฐานของอินเทอร์เน็ตในภายภาคหน้า
MaaS คึออะไร?
เป็นรูปแบบการบริการที่แบรนด์ต่าง ๆ สามารถกำหนดพื้นที่ของตนให้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการให้เป็นได้แพลตฟอร์ม MaaS ช่วยให้ผู้คนสร้างสถานที่ดิจิทัลที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้แต่ละคนไม่ว่าจะมีลักษณะอย่างไรเพื่อให้ metaverse ประสบความสำเร็จตามแนวคิดที่ใช้งานได้จริงโซลูชัน MaaS จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนนี้
หลาก metaverse หลากความต้องการ
ทุกคนมีมุมมองหรือวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสิ่งที่ metaverse อาจเป็นหรือกลายเป็นไม่ว่าจะเป็นโลกของเกมหรือจุดเชื่อมต่อไปยัง web3 ผู้ใช้ต้องการโอกาสในการกำหนดพื้นที่และจัดรูปแบบให้เป็นแพลตฟอร์มที่สะท้อนจินตนาการที่สดใสที่สุด
โลกที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับศิลปินเพลงหรือทัศนศิลป์ที่พวกเขาชื่นชอบจะแตกต่างอย่างมากจากโลกที่สร้างขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมกับแฟนกีฬา ในขณะที่ web3 ทำหน้าที่เป็นเธรดทั่วไปใน metaverse จำนวนมาก แนวคิดคือการใช้การกระจายอำนาจเพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละที่นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและให้บริการตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันหนึ่งแนวคิดที่เหมาะสมกับทุก ๆ คนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ metaverse เป็นหรือควรจะเป็น
ด้วย MaaS การปรับแต่งจะมีความสำคัญและอยู่ในมือของผู้สร้าง โดม metaverse ของการแข่งขันกีฬา e-sports จะขึ้นอยู่กับการสร้างแบรนด์ของทีมและการสร้างโทเค็นในเชิงที่เกี่ยวข้องกับเกมมากขึ้นในขณะที่ผู้ให้ความบันเทิงอาจต้องการสร้างพื้นที่จัดกิจกรรมเพื่อการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง
แต่ละ metaverse ก็มีความต้องการที่ต่างกันไปตามรูปแบบอุตสาหรกรรมและระดับการมีส่วนร่วมที่พวกเขามีต่อผู้ใช้งาน metaverse metaverse เป็นที่สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในการขยายฐานแฟน ๆ และสร้างชุมชนเพื่อเป็นการเพิ่มระดับของการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นไม่เพียงแต่องค์ประกอบเท่านั้นที่จะแตกต่างกันแต่การสร้างแบรนด์ตลอดจน metaverse นั้นจะต้องดูแตกต่างออกไปด้วยในขณะที่แบรนด์ต่าง ๆ เลือกที่จะเพิ่มความพยายามในการมีส่วนร่วมของชุมชนใน metaverse พวกเขาก็จะยิ่งต้องเพิ่มให้สามารถปรับแต่งได้มากขึ้นเท่านั้น
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีทักษะในการตั้งค่า metaverse รูปแบบนี้และดูเหมือนกับว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเรียนรู้การเขียนโค้ดเพื่อตั้งค่าเว็บไซต์แต่ถึงกระนั้นก็มีแพลตฟอร์มอย่าง WordPress และ Shopify ที่เข้ามาร่วม
ด้วยแพลตฟอร์มเหล่านั้นเปิดโอกาสให้ใช้เป็นฐานปักหลักในสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ขณะเดียวกันนั้นก็อนุญาตให้ปรับแต่งโดยผู้ใช้ปลายทางตามการสร้างแบรนด์และกลยุทธ์ ซึ่งนี่ก็คือประโยชน์ของ MaaS