<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เปิดปฏิบัติการล่าราชาคริปโตฯ Ep.3 ตำรวจไซเบอร์ บุกบ้านหรู 2 หลัง ยึดทรัพย์มูลค่า 300 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 มีรายงานจากรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3 – โดยรายงานว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.ศิลา กาญจน์รักษ์, พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด, พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย, พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.3 เปิดปฎิบัติการล่าขุมทรัพย์ราชาคริปโต นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุด ในพื้นที่ กทม.

โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลอาญา เลขที่ ค.505/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร มูลค่ากกว่า 45 ล้านบาท ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น มูลค่า 45 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิด มีแม่บ้านที่ดูแลเป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบ เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในทางคดีจำนวนมาก อีกทั้งยังพบชุดลักษณะคล้ายเครื่องแบบทหารประดับเครื่องหมายผู้กำกับสำรองตรี ระบุชื่อ สมปอง ซู อีกทั้งพบรูปถ่ายวันประดับเครื่องหมายผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรผู้กำกับกำลังสำรอง รักษาดินแดนรุ่นที่ 34  พร้อมเกียรติบัตร ของสังกัดสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทยอยู่ในห้องนอนดังกล่าว รวมทั้งหนังสือเดินทางระบุชื่อนายซูเผิงเฟย สัญชาติจีน นอกจากนี้ในส่วนผู้ดูแลให้การยืนยันว่านายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู เป็นเจ้าของบ้าน อีกทั้งเป็นบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งหลังจากที่มีข่าวจับกุมคนจีนก่อนหน้าก็ได้เดินทางออกนอกประเทศไป

นอกจากนี้ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์โตโยต้าอัลพาดสีขาว , รถยนต์โตโยต้า รีโว่ สีดำ , โฉนดที่ดินอาคารชุด จำนวน 8 ห้องชุด , โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ , ตู้เชพ 1 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ

จุดที่สองเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ค.504/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. เข้าตรวจค้นบ้านพัก แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัท ซิน รุ่ย เทคโนโลยี เบื้องต้นไม่พบว่ามีผู้พักอาศัยหรือผู้ดูแล

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ  Ep:1 และ Ep:2 โดยครั้งนั้น บช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.และนายคำเฮง จุลมนตรี  สัญชาติ ลาว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1654/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือ สินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายหลายพื้นที่

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีความเชื่อมโยงกับนายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู ซึ่งแนวทางสืบสวนเชื่อว่าน่าจะนำเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายมาเล่นแร่แปรธาตุ มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของ บริษัทซิน รุ่ย เทคโนโลยี อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับออกหมายเรียกนายสมปอง ซู มาชี้แจงการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หากไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ก็จะเข้าข่ายในส่วนของความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินหรือร่วมกันสนับสนุนฟอกเงิน” และนำทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้หรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อมุ่งหวังคืนให้กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งจะทำการขยายผลหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือ พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปในส่วนใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา: เรื่องเล่าเช้านี้