<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การจับกุมผู้ก่อตั้ง Tornado Cash อาจเป็นสาเหตุที่ Satoshi ทำทุกวิถีทางเพื่อปกปิดตัวตน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งคว่ำบาตร Tornado Cash แพลตฟอร์มที่เอื้อในการทำธุรกรรมอย่างปกปิดที่รันอยู่บนเครือข่าย Ethereum โดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มนี้ฟอกเงินดิจิทัลรวมมูลค่ากว่า 455 ล้านดอลลาร์ให้กับกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ Alex Pertsev ผู้พัฒนา Tornado Cash ถูกจับกุมตัวในช่วงเดือนสิงหาคม 2022 โดยการจับกุม Pertsev และการคุมขังในเวลาต่อมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาหลายเสียงว่า Pertsev ไม่ควรถูกลงโทษจากการพัฒนา code open-source

“สำหรับผม มันเหมือนกับการบอกว่าวิศวกรของ FORD ถูกจับเพราะรถที่พวกเขาสร้างถูกใช้เพื่อปล้นธนาคาร หรือจับกุม CEO ของ Apple หรือ Samsung เพราะอาชญากรใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในการสื่อสาร” ชาวเน็ตที่ใช้นามแฝงว่า middlemangv ออกมากล่าวบน Reddit

middlemangv สันนิษฐานเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การจับกุม Pertsev จะเป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการสอบสวน และอาจดำเนินคดีกับกิจกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Bitcoin เช่น การฟอกเงิน หรือการหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเหตุผลที่ Satoshi Nakamoto พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปกปิดตัวตน โดยอธิบายว่า

“เห็นได้ชัดว่า Satoshi จะถูกจับกุมหลังจากการสร้าง Bitcoin ได้ไม่นาน เพราะโดยพื้นฐานแล้ว Bitcoin ไม่สามารถตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลได้โดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะต้องการสอบสวน และอาจดำเนินคดีกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Bitcoin เช่น การฟอกเงิน หรือการหลีกเลี่ยงภาษี”

สำหรับคำถามที่ว่า “แล้ว Satoshi ใช้วิธีไหนในการรักษาความเป็นส่วนตัว?” middlemangv ได้ให้คำพูดของ Satoshi ในอดีตเป็นคำตอบแทน

“For greater privacy, it’s best to use bitcoin addresses only once – เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ควรใช้ที่อยู่ bitcoin เพียงที่อยู่เดียว”

middlemangv อธิบายเพิ่มเติมว่า Satoshi อาจจะใช้อุปกรณ์ Air Gaped ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีช่องว่างอากาศ (air gap) อยู่ระหว่างส่วนต่าง ๆ ของอุปกรณ์ โดยช่องว่างอากาศนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหายหรือถูกโจรกรรม อีกทั้ง Satoshi อาจใช้ VPN และ Proxy Servers ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

“อาจเป็นไปได้ว่า Satoshi กำลังเชื่อมต่อเครือข่ายจากสถานที่บางแห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากเชื่อมต่อกัน ลองนึกถึงจัตุรัสหลักของเมือง ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟบางแห่ง คุณสามารถใช้เสาอากาศ Hi-gain ได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่แห่งนั้น” middlemangv สันนิษฐาน

นอกจากนี้ middlemangv ยังสันนิษฐานด้วยว่า Satoshi อาจใช้งานเครื่อง virtual machine บนเครื่อง fresh new machine เพื่อปกปิดตัวตน อีกทั้งเขายังกล่าวเสริมไว้ด้วยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Satoshi จะใช้ประโยชน์จากเครือข่าย TOR

การปกปิดตัวตนของ Satoshi Nakamoto มีประโยชน์อย่างไร?

สำหรับในส่วนนี้ middlemangv อธิบายถึงข้อดีในการปกปิดตัวตนของ Satoshi Nakamoto ไว้ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน คือ

  • รัฐบาลไม่สามารถจับกุม Satoshi ได้ ถ้าหากไม่รู้ตัวตนของเขา
  • การปกปิดตัวตนของ Satoshi ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีกลุ่มหรือบุคคลใดที่สามารถมีอิทธิพลหรือควบคุม Bitcoin โดยใช้ตัวตนของเขา
  • เทคโนโลยีของ Bitcoin และ Tornado Cash อาจถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่ารำคาญในสายตาของรัฐบาล แต่การปกปิดตัวตนจะทำให้ Satoshi สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบทางกฎหมาย และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของชุมชน
  • การปกปิดตัวตน ทำให้ Satoshi ไม่ตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาล แฮกเกอร์ อาชญากร ฯลฯ

“เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลแสดงละครตามบทบาทที่กำหนดโดยกฎเกณฑ์ของตนเอง ผมยังไม่เชื่อว่าผู้สร้าง Tornado Cash จงใจช่วยเหลือ Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาสมควรได้รับทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา” middlemangv กล่าวปิดท้าย

ที่มา: reddit