<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเรียนชาวแอฟริกันถูกคุกคาม หลังเป็นตัวแทนในการโปรโมท FTX ก่อนที่จะล่มสลาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากการล่มสลายของกระดานเทรดยักษ์ใหญ่อย่าง FTX ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมคริปโต แต่รวมถึงผู้คนธรรมดาจากทั่วทุกมุมโลกที่พวกเขาอาจต้องเสียเงินของพวกเขาไป หรือบางคนอาจเสียแม้กระทั่งเงินเก็บที่เขาได้เก็บมาทั้งชีวิต

และหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้คือนักศึกษาที่เป็นตัวแทนในการโปรโมทบริษัทในแอฟริกา โดยก่อนที่ FTX จะล่มสลาย พวกเขาได้มีโครงการ Brand ambassador สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อให้พวกเขาแนะนำเพื่อนๆ และครอบครัวของพวกเขาให้เขามาเป็นลูกค้าของ FTX รวมถึงจัดกิจกรรมพบปะในวิทยาเขตของตน

โดยพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนจากการลงทะเบียน และในสำเนาสัญญาได้มีการระบุไว้ว่า นักศึกษาจะได้รับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมมากถึง 30% และจะบวกเพิ่มอีก 500 ดอลลาร์ถ้าหากว่าพวกเขาทำตามยอดได้

จากการสัมภาษณ์ของอดีตหัวหน้าฝ่ายการศึกษาของ FTX Africa ที่กล่าวกับ CoinDesk บอกว่า

“เราเห็นว่ากระดานเทรด FTX นั้นดีกว่าทุก ๆ ที่ที่เราเคยใช้มา ดังนั้นเราจึงปล่อยให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ จำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์ม”

ทว่าหลังการล่มสลาย ตัวแทนนักศึกษาเหล่านี้ก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากการสูญเสียเงินเก็บซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิต รวมโดยคุกคามจากบุคคลที่พวกเขาได้แนะนำ FTX จนส่งผลให้พวกเขารู้สึกกลัวถึงความปลอดภัยส่วนบุคคล

ซึ่งก็ได้มีข้อมูลว่าได้มีอดีตตัวแทนนักศึกษาบางคนถูกคุกคามทางร่างกาย รวมถึงการขู่ว่าจะมีการทำร้ายร่างกาย และเรียกร้องเงินที่พวกเขาเก็บเอาไว้ในกระดานเทรด เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าตัว FTX นั้นล่มสลายไปแล้ว แต่พวกเขาเพียงแค่ต้องการเงินที่พวกเขาเก็บเอาไว้เท่านั้น

Okedinachi อดีตหัวหน้าฝ่ายการศึกษาของ FTX Africa กล่าวว่า กระดานเทรดคริปโตนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากการใช้ในการเปลี่ยนสกุลเงินท้องถิ่นให้เปลี่ยนเป็น Stablecoin ที่ตรึงกับดอลลาร์ เพราะในประเทศโซนแอฟริกาอย่างเช่น ไนจีเรียนั้นประสบปัญหากับภาวะเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก

เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อเงินดอลลาร์ผ่านตลาดมืดอาจมีราคาสูงถึง 200 ดอลลาร์ อีกทั้งตัว FTX เองขึ้นชื่อเรื่องค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำ ผู้คนจำนวนมากจึงตัดสินใจที่จะใช้แพลตฟอร์มนี้ในการซื้อขายคริปโต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินดิจิตอลไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น

ที่มา: Coindesk