<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ลุงโฉลกตอบ ‘เชื่อตัวเอง’ หลังมีคนถามเชื่อใครดีระหว่าง ‘คุณพิชัย จาวลา’ กับ ‘ลุงโฉลก’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ลุงโฉลกได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ มุมมองการลงทุนที่แตกต่างกันระหว่างลุงโฉลก กับ คุณพิชัย จาวลา เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น ทองคำ และ บิตคอยน์ หลังมีคำถามจากนักลงทุนที่ว่า จะเชื่อใครดีระหว่าง ลุงโฉลก กับ คุณพิชัย จาวลา 

มุมมองการลงทุนของลุงโฉลกมองว่า ตลาดหุ้นไทยจะพัง แนะนำนักลงทุนให้ซื้อทองคำและบิตคอยน์ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven) แต่คุณพิชัย จาวลา กลับมองว่าตลาดหุ้นจะยังทรงตัวอยู่ โดยเขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นสกุลเงินหลักของโลก และไม่แนะนำให้นักลงทุนลงทุนในทองคำ และ บิตคอยน์

สำหรับคำตอบในเรื่องนี้ ลุงโฉลกได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวว่า “ผมชอบจังเลย คนนึง (ลุงโฉลก) ทายว่าตลาดหุ้นไทยจะพัง ขั้นต่ำ SET 1,100 จุดหรือต่ำกว่านั้น อีกคนหนึ่ง (คุณพิชัย จาวลา) บอกว่า 1,400 ซื้อได้ คนนึง (ลุงโฉลก) บอกว่า Gold กับ Bitcoin คือ Store of Value ให้ซื้อพวกนี้และขายหุ้นซะ แต่อีกคนนึง (คุณพิชัย จาวลา) เชื่อใน US Dollar และไม่สนใจ Gold กับ Bitcoin คุณหล่ะ! จะเชื่อใครดี … ตอบ… ผมเชื่อตัวเองคร้าบบบ”

นอกจากนี้ลุงโฉลกยังได้กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของราคาของดัชนี SET ทองคำ และบิตคอยน์ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง (จากวันที่ 13 ตุลาคม 2023 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2023 ) โดยกล่าวว่า

SET (13 Oct 2023) 1450 (15 Dec 2023) 1391 ลดลง 59 (4.067%) Short@1:10 = กำไร 40.69%

Gold (13 Oct 2023) 1861 (15 Dec 2023) 2019 เพิ่มขึ้น 158 (8.49%) Long@1:10 = กำไร 84.90%

BTC (13 Oct 2023) 27594 (15 Dec 2023) 41904 เพิ่มขึ้น 14310 (51.86%) Long@1:10 = กำไร 518.59% ”

จากข้อมูลดังกล่าว พบว่าดัชนี SET ปรับตัวลดลง 4.067% ในขณะที่ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.49% และบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 51.86%

หากนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับผลตอบแทนจากการเทรดแบบ Short ในตลาดหุ้นไทยโดยใช้อัตราทด 1:10 พบว่าสามารถมีกำไรจากการทำ Short ตลาดหุ้นไทยได้ 40.69%

ในทางกลับกัน หากนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับผลตอบแทนจากการเทรดแบบ Long ในตลาดทองคำและบิตคอยน์โดยใช้อัตราทด 1:10 พบว่าสามารถมีกำไรจากการทำ Long ในตลาดทองคำได้ 84.90% และในตลาดบิตคอยน์ได้ 518.59%

ดังนั้นหมายความว่า ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดทองคำและบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจลงทุนก็เป็นเรื่องของความเชื่อและมุมมองส่วนบุคคล ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าคำตอบใดถูกต้องหรือผิด ดังนั้นเราจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง