บริษัท BlackRock ได้ช้อน Bitcoin ในปริมาณที่ต้องใช้เวลาประมาณ 13 วันถึงจะขุดขึ้นมาได้
มีรายงานว่าบริษัท BlackRock ได้ช้อน Bitcoin เพิ่มอีก 11,500 BTC ในช่วงที่ราคาของ Bitcoin ร่วงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยใช้เวลาเพียง 2 วัน
ตัวเลขนี้มีความสำคัญ เนื่องจากในแต่ละวันสามารถสร้าง Bitcoin ออกมาได้แค่ 900 BTC เท่านั้น ซึ่งการซื้อ Bitcoin ของบริษัท BlackRock เพียงบริษัทเดียว ถือเป็นจำนวนที่ต้องใช้เวลา 13 วันในการขุด
นาย Larry Fink CEO ของบริษัท BlackRock กล่าวว่า Bitcoin มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้เขาบอกว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าขึ้นมาได้เอง
อุปทานกำลังลดลง
กองทุน iShares Bitcoin Trust Spot ETF ของบริษัท BlackRock ได้ซื้อ Bitcoin ไปเพียง 25% ของปริมาณ Bitcoin ที่กองทุน Bitcoin ETF ต่าง ๆ ซื้อในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา กองทุน Bitcoin ETF ต่าง ๆ ได้ซื้อ Bitcoin รวมกันประมาณ 46,000 BTC ซึ่งหมายความว่ามี Bitcoin จำนวนมหาศาลถูกดึงออกจากระบบ
หากสิ่งนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป Bitcoin อาจจะเกิดกับภาวะขาดแคลนที่รุนแรง ซึ่งการซื้อ Bitcoin 46,000 BTC ในเวลา 2 วัน แสดงว่าในแต่ละวันถูกซื้อไป 23,000 BTC ซึ่งมากกว่าปริมาณ Bitcoin ที่ถูกขุดได้ในแต่ละวันถึง 25.5 เท่า
การซื้อ Bitcoin เพิ่มของกองทุน ETF ต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงว่า Bitcoin มีความต้องการมากขึ้นอย่างมาก
แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะมีความผันผวนแต่ราคาของมันก็ยังคงกลับขึ้นมาได้ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุน Bitcoin ETF แต่การเปิดตัว Bitcoin ETF ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนี่อาจเป็นยุคใหม่ที่ Bitcoin กำลังจะขาดแคลนในตลาด
มีเงินไหลเข้ากองทุน ETF ถึง 819 ล้านดอลลาร์
ในช่วง 2 วันแรกของการซื้อขาย มีเงินทุนไหลเข้ารวม 1.4 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อหักกับเงินที่ไหลออกแล้ว ทำให้กองทุน ETF มีเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 819 ล้านดอลลาร์
โดยมีการซื้อขายรวมกันถึง 500,000 รายการซึ่งส่งผลให้มี Volume ซื้อขายมากขึ้น 3.6 พันล้านดอลลาร์ โดยบริษัท BlackRock เป็นบริษัทที่ทำรายได้มากที่สุด โดยทำรายได้ไปมากถึง 497.7 ล้านดอลลาร์
รองลงมาเป็นของบริษัท Fidelity ซึ่งทำรายได้ไปประมาณ 422.3 ล้านดอลลาร์ และต่อมาเป็น Bitwise ทำเงินไป 237.9 ล้านดอลลาร์
ในขณะเดียวกันก็มีเงินทุนไหลออกจากกองทุน Grayscale Bitcoin Trust สูงถึง 579 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนหันไปใช้กองทุนที่มีค่าธรรมเนียมถูกกว่า
แนวโน้มนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดการณ์ว่า Bitcoin ETF จะสามารถดึงดูดเงินทุนจากได้ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีแรกที่เปิดให้บริการ
Source: CryptoSlate