<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กองทุนชอร์ตหุ้นตามคำแนะนำ Jim Cramer ประกาศปิดตัวลง หลังผลตอบแทน “ย่ำแย่”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กองทุน ETF ที่วางแผนที่จะทำกำไรให้นักลงทุนด้วยการชอร์ตหุ้นที่พิธีกรจิม เครเมอร์แนะนำในรายการ Mad Money กำลังจะปิดตัวลง หลังจากประสบผลตอบแทนติดลบกว่า 15%

เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนของ Tuttle Capital Management ได้ประกาศยุติการให้บริการซื้อขายกองทุน Inverse Cramer ETF (SJIM) ที่เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว และจะทำการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งผู้ที่ลงทุนไปจะได้เงินเท่ากับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิคืน

กองทุนนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อเก็งกำไรจากการ “ชอร์ตหุ้น” ตามคำแนะนำของพิธีกรรายการ Jim Cramer อย่างไรก็ตามกองทุนสามารถระดมทุนได้เพียงแค่ 2.4 ล้านดอลลาร์ โดยมีผลตอบแทนติดลบ 15% นับตั้งแต่เปิดตัว

ภาพ : ราคาของ SJIM นับตั้งแต่การเปิดตัวในวันที่ 2 มี.ค. 2565

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปิด ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Jim Cramer โดยก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2023 มีการปิดตัวกองทุน Long Cramer ETF (LJIM) ไป ซึ่งตัวของ LJIM นั้นเปิดตัวพร้อมกับ SJIM แต่ระดมทุนได้ไปแค่ 1.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับผลตอบแทนกลับมาเพียง 2.2% 

Matthew Tuttle ซีอีโอ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Tuttle Capital กล่าวว่าการสร้าง ETF นี้ขึ้นมาเป็นการแสดงให้เห็นถึงความอันตรายของการปักใจเชื่อฟังพิธีกรรายการ TV โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jim Cramer เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้อาจไม่มีความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักลงทุน

สำหรับสาเหตุการปิดตัวลงของกองทุนดังกล่าว Matthew ให้เหตุผลว่า ทางบริษัทไม่มีเวลามาจัดการกองทุนเหล่านี้ เนื่องจากต้องให้ความสำคัญกับ ETFs ตัวอื่นที่ประสบความสำเร็จมากกว่า

ทั้งนี้เขาได้อธิบายว่า ตัวของบริษัทได้ประสบความสำเร็จในภารกิจข้างต้นแล้ว แต่นักลงทุนรายย่อยยังคงให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูงมากกว่า ซึ่งความสนใจในพอร์ตโฟลิโอแบบ long/short ก็ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง โดยสิ่งนี้อาจบ่งบอกว่านักลงทุนรายย่อยไม่สนใจแนวคิดของกองทุนที่เดิมพันกับหุ้นบางตัวมากนัก

สำหรับตัวของ Cramer นั้นปัจจุบันก็ยังให้คำแนะนำแก่ผู้ติดตามเขาอยู่เป็นระยะ โดยล่าสุดเขาพึ่งได้ทำการโพสต์ลงบนแพลต์ฟอร์ม X ให้ผู้ติดตามของเขาทำการขาย Bitcoin ก่อนราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ที่มา : Cointelegraph