<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance หวนคืนบัลลังก์ ! มาร์เก็ตแชร์พุ่งกว่า 48.7% หลัง CZ ประกาศลาออกจาก CEO 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ ยักษ์ใหญ่ เริ่มได้เห็นส่วนแบ่งตลาดที่พุ่งขึ้น หลังผ่านไปหลายเดือนนับตั้งแต่การยุติคดีกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ด้วยการจ่ายเงินค่าปรับมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยคริปโต Kaiko ระบุว่า Binance มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นถึง 49% ภายในสองเดือน หลังจากตกลงยุติคดีกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ การฟื้นตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ หลังจากที่ Binance เคยดิ่งไปแตะจุดต่ำสุดในรอบหลายปี เนื่องจากเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย

ถึงแม้จะเริ่มต้นปี 2023 มาอย่างแข็งแกร่ง แต่  Binance  ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านส่วนแบ่งการตลาด spot ตลอดทั้งปี โดยข้อมูลจาก CCData ผู้ให้บริการข้อมูลคริปโต ระบุว่า Binance เคยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 55.2% ในเดือนมกราคม 2023 แต่ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 34.3% ในเดือนกันยายน

ในเดือนมิถุนายน 2023 บริษัทวิเคราะห์ Nansen รายงานว่า Binance เผชิญกับเงินลงทุนไหลออกสุทธิ 2.36 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ DefiLlama บริษัทรวบรวมข้อมูลการเงินแบบกระจายอำนาจ รายงานว่ามีเงินไหลออกสุทธิมากกว่า 3.35 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Changpeng Zhao อดีต CEO ของ Binance ตั้งข้อสงสัยถึงข้อมูลดังกล่าวอาจไม่ถูกต้อง โดยชี้แจงว่า บริษัทวิเคราะห์ภายนอกอาจตีความ วัดค่าการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) เป็นเงินไหลออก ซึ่งอาจไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริง

แม้จะเผชิญกับความท้าทายด้านส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง แต่ Binance ก็ประกาศว่ามียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้น 40 ล้านคน ภายในปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2022 นอกจากนี้ Binance ยังเน้นย้ำถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ “บริการหลัก” บนแพลตฟอร์ม

โฆษกของ Binance ยืนยันว่า บริษัทกำลังมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอันดับหนึ่ง และบริษัทพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่บทใหม่

“หัวใจสำคัญของ Binance เสมอมาคือการยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้งานของเราจึงมั่นใจได้ในแพลตฟอร์มของเรา ในขณะที่เราเดินหน้าต่อเพื่อก้าวเข้าสู่บทใหม่ของ Binance”

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประกาศยุติข้อตกลงมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์กับ Binance โดย Merrick Garland อัยการสูงสุดระบุในแถลงการณ์ว่า เงินจำนวนนี้จะครอบคลุม “การดำเนินการบังคับใช้กฎระเบียบ” โดยหน่วยงานของรัฐ รวมถึงกระทรวงการคลังและคณะกรรมการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า

ที่มา : cointelegraph